โลกแห่งการค้นหา..เพื่อชีวิต
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แฟชั่น แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แฟชั่น แสดงบทความทั้งหมด

สวยปลอดภัยใต้แสงแดดด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นอินเทรนด์

สวยปลอดภัยใต้แสงแดดแสงแดดบ้านเราร้อนทั้งปี แต่พอเข้าหน้าร้อน ก็ยิ่งร้อนจนแทบละลาย มาลองทบทวนดูกันดีกว่าว่าเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆคุณปกป้องแสงแดดกันดีแล้วแค่ไหนคุณใช้ครีมกันแดดที่มีคำปกป้องเท่าไรเดี๋ยวนี้ที่ต่างประเทศเขามีครีมกันแดดที่มีค่า SPF ถึงสามหลักกันแล้วนะ ถึงแม้แพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่จะบอกว่าความแตกต่างของการปกป้องจาก ค่า SPF สูงๆ น่ะแสนจะจิ๊บจ๊อย อย่างSPF15 จะกรองรังสียูวีบีได้ราว 93% ส่วน SPF30 กรองรังสียูวีบีได้ราว 97% ห่างกันเพียง 4% เองแต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังยืนยันอยู่ดีว่าควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 เป็นอย่างน้อยในหน้าร้อนเพื่อการปกป้องที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ คนเรายังมักจะทาครีมกันแดดน้อยไปอีกต่างหากเราก็เลยไม่ได้รับการปกป้องแสงแดดเท่ากับที่ระบุไว้บนขวด เพราะฉะนั้นเสื้อผ้าแฟชั่นราคาถูกครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่สูงกว่าก็ต้องถือว่าช่วยได้มากขึ้นคุณทาครีมกันแดดเพียงพอแล้วหรือเปล่าอย่าเอาครีมกันแดดไปเทียบกับครีมบำรุงผิวที่มักแนะนำให้ใช้ปริมาณเท่าเม็ดไข่มุกหรือเมล็ดถั่วทีเดียว เพราะจะเท่ากับว่าคุณทาครีมกันแดดน้อยกว่าที่ควรจะทาไปเยอะเลย ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าถ้าจะปกป้องผิวทั่วเรือนร่างก็ต้องใช้ครีมกันแดดประมาณหนึ่งช็อต (แก้วเล็กๆ อย่างที่เขาใช้ตวงเหล้ากันน่ะ) ส่วนใบหน้าและลำคอก็ต้องใช้อย่างน้อยหนึ่งช้อนชาถึงจะถือว่าเพียงพอ เอ้า คราวนี้ตอบอีกทีนะว่าคุณทาครีมกันแดดมากพอหรือยัง?และนอกจากจะต้องทาครีมกันแดดอย่างเบามือแล้ว ก็อย่าลืมทาครีมกันแดดซ้ำด้วยนะอย่างน้อยก็ทุกสองชั่วโมง ถ้าอยู่กลายแดดตลอดเวลา (ถึงแม้ครีมกันแดดจะบอกคุณว่ามันปกป้องได้ยาวนานตลอดทั้งวันก็เถอะ) เสื้อผ้าแฟชั่นอินเทรนด์เพราะครีมกันแดดส่วนใหญ่มักจะเสื่อประสิทธิภาพในการป้องกันแดดลงไปเมื่อเวลาผ่านไป 2-4 ชั่วโมง โดยเฉพาะถ้าคุณมีเหงื่อออกหรือโดนน้ำ (ถึงแม้ครีมกันแดดของคุณจะเป็นชนิดกันน้ำกันเหงื่อก็ตามที) ครีมกันแดดก็จะถูกชำระล้างออกไปฉะนั้น จึงต้องทาครีมกันแดดซ้ำ แต่ถ้าเปียกน้ำก็ควรเช็ดผิวให้แห้งก่อนทาครีมกันแดดเพราะน้ำจะทำให้สารกันแดดในครีมเจือจางลง แล้วก็อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกแดดสัก 30นาทีด้วยล่ะก็แสงแดดน่ะมีรังสียูวีหลายชนิด แต่ที่ส่องผ่านชั้นบรรยากาศลงมาทำร้ายผิวของเราได้ก็มีอยู่สองชนิดคือรังสียูวีบีที่ก่อให้เกิดความหมองคล้ำและอาการไหม้แดด แล้วก็รังสียูวีเอที่ทะลุทะลวงลงไปในชั้นผิวได้ลึกกว่า ซึ่งส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัย เฉพาะฉะนั้นครีมกันแดดของคุณ ก็ต้องปกป้องแบบดับเบิ้ล คือปกป้องรังสียูวีทั้งสองชนิดนี้ ส่วนใหญ่ก็มักจะระบุบนฉลากว่า Broad Spectrum หรือมีค่า PA ที่ตามท้ายด้วย เครื่องหมายบวก ซึ่งบ่งบอกถึงค่าการปกป้องรังสียูวีเอ เพราะฉะนั้นลองกลับไปดูฉลากครีมกันแดดที่บ้านสักหน่อย แล้วโยนทิ้งขวดที่ไม่ปกป้องรังสียูวีเอไปได้เลยนะจ๊ะ ถ้าไม่อยากหน้าเหี่ยวก่อนวัยขอบคุณข้อมูลจากเสื้อผ้าแฟชั่น

เหตุใดหญ้ามีสีเขียว ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าและเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆ

เป็นเพราะปฏิกิริยาระหว่างรังสีกับวัตถุเสื้อผ้าแฟชั่น เราสามารถสังเกตปฏิกิริยาของวัตถุกับแสงได้รอบตัว เช่น หญ้ามีสีเขียว เพราะ ว่าโฟตอนของสีแดงและน้ำเงินถูกดูดกลืนโดยคลอโรฟีลของพืช หรือรถยนต์เห็นเป็นสีแดงเพราะแสงสีน้ำเงินและเขียวถูกดูดกลืนโดยสีที่ใช้เคลือบรถ วัตถุสามารถปล่อยโฟตอน (ซึ่งตรงข้ามกับการดูดกลืน) ถ้าถูกกระตุ้นด้วยพลังงานหรือให้ความร้อนจนมีอุณหภูมิสูงพอ แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์เป็นผลจากการกระตุ้นไอปรอทด้วยอิเลคตรอนพลังงานสูงแล้วปล่อยโฟตอนออกมา (แท้จริงอยู่ในช่วง UV) และทำปฏิกิริยากับ ฟอสฟอรัสที่ฉาบไว้กับผนังหลอดจึงปล่อยแสงสว่างออกน้ำเงินที่เราเห็น หลอดไฟบนขอบถนนที่ออกเป็นสีเหลืองเป็นผลจากโฟตอนที่ถูกปล่อยโดยไอโซเดียมที่ถูกกระตุ้นหรือให้ความร้อน ดังนั้น ปฏิกิริยาระหว่างวัตถุกับรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นผลมาจากทั้ง การดูดกลืนเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆและการปล่อยโฟตอน ขึ้นอยู่กับแต่ละปรากฏการณ์ที่สังเกตกรณีของรังสี UV-B กับอินทรีย์ของสิ่งมีชีวิต มักจะเป็นปรากฏการณ์การดูดกลืน โดยที่ดวงอาทิตย์เป็นวัตถุที่มีพลังงานสูงมากและปล่อยโฟตอนออกมาหลายช่วงความถี่ รวมทั้งช่วง UV ซึ่งมีการดูดกลืนโดยอินทรีย์ และเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ต่างกับการดูดกลืนโฟตอนของพืชในช่วงสีน้ำเงินและแดง (400-500 และ 650-780 นาโนเมตร) เพื่อเป็นพลังงานใช้ในการสังเคราะห์แสง แต่การดูดกลืนรังสี UV ของอินทรีย์ของสิ่งมีชีวิตถือเป็น การทำลายเซลล์แบบถาวรรังสี UV-C มีความเข้มสูงที่สุดของช่วง UV แต่ถูกดูดกลืนไว้เกือบหมด นับเป็นโชคดีของสิ่งมีชีวิต หาไม่แล้วอาจไม่มีสิ่งมีชีวิตเช่นเราๆ บนโลก ตัวอย่างเช่น ใช้รังสี UV-C ที่ปล่อยจากหลอดซึ่งใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรค (germicidal lamp)รังสี UV-B ถูกดูดกลืนโดยเสื้อผ้าแฟชั่นอินเทรนด์โอโซนส่วนใหญ่และส่องถึงพื้นโลกบางส่วนเท่านั้น มีผลในการสร้างวิตามินดีในเวลาสั้นๆแต่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตมากที่สุด ทำให้ผิวหนังแดง ไหม้เกรียม มีการสะสมทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง โรคเกี่ยวกับตา และยับยั้งระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ในระยะยาวรังสี UV-A ถูกดูดกลืนโดยโอโซนเป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่ส่องถึงพื้นโลกได้ แต่มีอันตรายไม่มาก มีความจำเป็นต่อร่างกายในการสังเคราะห์วิตามินดี แต่หากมากเกินไปจะทำให้ผิวหนังหยาบกร้าน ยับยั้งภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำให้ผิวหนังแดงและโรคเกี่ยวกับตาน้อยกว่า UV-Bผลกระทบจากรังสีอัลตราไวโอเลตสามารถแบ่งประเภทผลกระทบได้ 3 ประเภทด้วยกัน คือ1. ผลกระทบต่อมนุษย์ รังสีอัลตราไวโอเลต มีทั้งคุณและโทษต่อสุขภาพมนุษย์ คุณประโยชน์ของรังสีอัลตราไวโอเลตคือ ช่วยสังเคราะห์วิตามิน D ที่ผิวหนังมนุษย์และสัตว์และมีส่วนสำคัญในการสร้างเสริมเนื้อเยื่อกระดูก ส่วนผลกระทบที่เป็นโทษของรังสีอัลตราไวโอเลต คือ ผิวหนังเกรียม กระจกตาอักเสบ (snow blindness) ต้อกระจก เสื้อผ้าแฟชั่นราคาถูกผิวหนังเหี่ยวย่น และมะเร็งผิวหนัง

รังสีอัลตราไวโอเลตจัดหนักกับเสื้อผ้าแฟชั่นเทรนด์ใหม่

ภาพถ่ายเสื้อผ้าแฟชั่นแสงออโรราจากดาวพฤหัสบดีในช่วงรังสีอัลตราไวโอเลต ถ่ายโดยองค์การนาซารังสีอัลตราไวโอเลต หรือ รังสียูวี (อังกฤษ: ultraviolet) หรือในชื่อภาษาไทยว่า รังสีเหนือม่วง เป็นช่วงหนึ่งของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าแสง ที่มองเห็น แต่ยาวกว่ารังสีเอกซ์อย่างอ่อน มีความยาวคลื่นในช่วง 400-10 นาโนเมตร และมีพลังงานในช่วง 3-124 eVมันได้ชื่อดังกล่าวเนื่องจากสเปกตรัมของมันประกอบด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่สูงกว่าคลื่นที่มนุษย์มอง เห็นเป็นสีม่วงเนื้อหา1 ชนิดย่อย2 การค้นพบ 3 โทษ4 อย่างประโยชน์4.1 แบล็กไลต์4.2 เจ้าหลอดฟลูออเรสเซนต์ 4.3 ดาราศาสตร์ 4.4 การวิเคราะห์แร่4.5 การฆ่าเชื้อโรค5 อ้างอิง6 แหล่งข้อมูลอื่นชนิดย่อยสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้าของแสงเหนือม่วงสามารถแบ่งย่อยได้หลายวิธี ร่างมาตรฐาน ISO ที่กำหนดชนิดแสงเปล่งของดวงอาทิตย์ (ISO-DIS-21348) [1] อธิบายช่วงเหล่านี้ชื่อ ตัวย่อ เสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆช่วงความยาวคลื่น เป็นนาโนเมตร พลังงานต่อโฟตอนอัลตราไวโอเลต เอ, คลื่นยาว, หรแบล็คไลท์ UVA 400 nm - 315 nm 3.10 - 3.94 eVใกล้ NUV 400 nm - 300 nm 3.10 - 4.13 eVที่อัลตราไวโอเลต บี หรือ คลื่นกลาง UVB 315 nm - 280 nm 3.94 - 4.43 eVสงแกลาง MUV 300 nm - 200 nm 4.13 - 6.20 eVอัลตราไวโอเลต ซี, คลื่นสั้น, หรือ germicidal UVC 280 nm - 100 nm 4.43 - 12.4 eVไกล FUV 200 nm - 122 nm 6.20 - 10.2 eVสุญญากาศ VUV 200 nm - 10 nm 6.20 - 124 eVไกลยิ่ง EUV 121 nm - 10 nm 10.2 - 124 eVการค้นพบหลังจากที่รังสีอินฟราเรดถูกค้นพบ นักฟิสิกส์ชาวเยอรมันชื่อ โยฮันน์ วิลเฮล์ม ริตเตอร์ (Johann Wilhelm Ritter) ได้ทดลองค้นหารังสีที่อยู่ตรงข้ามกับรังสีอินฟราเรด นั่นคือ รังสีอินฟราเรดมีความยาวคลื่นยาวกว่าแสงสีแดง แต่ริตเตอร์ต้องการจะหารังสีชนิดหนึ่งที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าสีม่วง เขาได้ใช้กระดาษอาบซิลเวอร์คลอไรด์วางไว้กลางแดด พบว่ากระดาษนั้นเปลี่ยนเป็นสีดำ ริตเตอร์เรียกรังสีนี้ว่า deoxidizing rays ต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็นยูวีดังเช่นในปัจจุบันโทษการแปลงสภาพ DNA โดยทำให้คู่เบสเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลีที่จับกันผิดปกติและเกิดการบิดเบี้ยวของเกลียวการรับรังสีอัลตรา ไวโอเลตมากเกินควร ก่อให้เกิดอันตรายกับระบบต่าง ๆ ของร่างกายได้ รังสีอัลตราไวโอเลตในช่วง UVC มีพลังงานสูงที่สุด และที่สำคัญคืออันตรายที่สุด แต่พบได้น้อยเพราะบรรยากาศกรองเอาไปหมดแล้ว ทว่าเครื่องมือฆ่าเชื้อในน้ำดื่มอาจปล่อยรังสีช่วงนี้ออกมาก็ได้รังสีอัลตราไวโอเลตทั้งสามชนิดคือ UVA, UVB และ UVC สามารถทำให้คอลลาเจนในผิวหนังเสื่อมสภาพได้ ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย แต่ UVA มีความรุนแรงน้อยที่สุด เพราะไม่สามารถก่อให้เกิดอาการแดดเผา (sunburn) ทว่ายังน่ากลัวอยู่ที่สามารถ แปลงสภาพ DNA ได้ จนอาจก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง แต่ร่างกายก็สามารถป้องกันได้ โดยการสร้างเม็ดสีเมลานินขึ้นมา เพื่อป้องกันการทะลวงของยูวี จึงทำให้ผิวคล้ำดำมากขึ้นนอกจากผิวหนัง แล้ว ยูวียังเป็นอันตรายต่อดวงตา โดยเฉพาะ UVB ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า arc eye คือรู้สึกเหมือนมีทรายเข้าตา เสื้อผ้าแฟชั่นอินเทรนด์หรือถ้ารุนแรงกว่านั้นอาจทำให้เป็นโรคต้อกระจก (cataract) ได้ โดยเฉพาะในหมู่ช่างเชื่อมโลหะ การป้องกันก็คือ สวมใส่แว่นป้องกัน หรือทาโลชั่นที่มีค่า SPF 50+

ปกป้องผิวเสียจากรังสีUVและเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆ

ปกป้องผิวเสียจากรังสี UV ด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นหลายคนคงทราบกันดีว่าอากาศในบ้านเมืองเราในช่วงเดือน เมษา-พฤษภา นั้นจะร้อนเป็นพิเศษ ซึ่งในหลายคนโดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงก็จะสรรหา ครีมกันแดด ครีมหน้าขาว หลากหลายยี่ห้อมาบำรุง ผิวขาว ของตนเองให้เหมือนเดิมสม่ำเสมอ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำทำความรู้จักเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ป้องกันรังสียูวีจากแดดกันโดยในขั้นแรก ให้เลือกดูค่า PA+ ข้างกล่องซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกว่าสา มารถป้องกันรังสี UVA ได้มากน้อยเพียงได้ หากมี + 1 ตัวก็สามารถป้องกันได้ 2 เท่า , ++ จะสามารถป้องกันได้ 4 เท่า หรือ PA+++ ก็จะสามารถป้องกันได้ถึง 8 เท่า ตามลำดับเลยทีเดียวนอกจากนี้ยังควรเลือกดูค่าของ SPF อีกด้วย นั้นคือ SPF โดยมากที่พบกันก็จะมีตั้งแต่ SPF10, SPF15, SPF30 ซึ่งค่าดังกล่าวคือตัวบ่งบอกระยะเวลาในการป้องกันรังสียูวีจากแดด โดยการนำเลขดังกล่าวมา * ด้วย 30 ก็จะได้ออกมาเป็นระยะเวลาที่ผลิตภัณฑ์นั้นเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆจะช่วยปกป้องได้ ซึ่งค่า SPF จะสามารถป้องป้องรังสี UV ประเภท UVB ได้เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยปกป้องผิวของคุณคะน้า (Brassica oleracea var. alboglabra) เป็นผักกินใบที่มีการเปลี่ยนแปลงสีอย่างรวดเร็วภายหลังการเก็บเกี่ยว โดยเปลี่ยนจากสีเขียวไปเป็นสีเหลือง จากงานวิจัยที่ผ่านมาพบว่าการใช้รังสี UV โดยเฉพาะรังสี UV-C สามารถชะลอการเปลี่ยนแปลงสีในพืชได้หลายชนิด แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลในเรื่องของรังสี UV-C ต่อระบบการต้านอนุมูลอิสระในพืชงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของรังสี UV-C ต่อคุณภาพและกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระในคะน้าหลังการเก็บเกี่ยวโดย การฉายรังสี UV-C คะน้าที่ระดับความเข้ม 0 (การทดลองควบคุม) 3.6 และ 5.4 กิโลจูลต่อตารางเมตรเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี จากนั้นเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ร้อยละ 95 ±2 ผลการทดลองพบว่าการฉายรังสี UV-C สามารถกระตุ้นกิจกรรมของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ catalase (CAT) peroxidase (POD) และ superoxide dismutase(SOD) โดยคะน้าที่ผ่านการฉายรังสี UV-C มีกิจกรรมของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าคะน้าที่ไม่ฉายรังสีUV-C นอกจากนี้ยังพบว่าการฉายรังสี UV-C ยังสามารถชะลอการลดลงของปริมา ณสารต้านอนุมูลอิสระได้แก่ วิตามินซี และคาโรทีนอยด์ ของคะน้าในระหว่างการเก็บรักษา ดังนั้นการฉายรังสี UV-C จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถรักษาคุณภาพของคะน้าโดยไม่ใช้สารเคมี ซึ่งการเพิ่มขึ้นของระบบการต้านอนุมูลอิสระแบบ enzymatic อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยรักษาคุณภาพของคะน้าได้ได้ง่ายและปลูกได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ผู้บริโภคให้ความนิยมเพราะมีรสชาติอร่อย เสื้อผ้าแฟชั่นราคาถูก ประกอบกับทั้งยังมีคุณค่าอาหารสูง ซึ่งมีวิตามินเอ วิตามินซีสูง และสารต้านอนุมูลอิสระสูง คะน้ายังประกอบด้วยสารอาหารพวกคาร์โบไฮเดรท โปรตีน แร่ธาตุ

อันตรายที่เิกิดขึ้นได้จากแสงแดด

ผิวไหม้เพราะแสงแดดแสงแดดให้ความอบอุ่นได้จริงครับ แต่หากเราขาดความระมัดระวัง ความอบอุ่นก็อาจทำให้ผิวร้อนจนไหม้ได้ ใช่ว่าอาการผิวไหม้จะเกิดขึ้นในประเทศเขตร้อนเท่านั้น ประเทศเขตหนาวก็ผิวไหม้ได้ครับ ดูตัวอย่างจากนักสกีทั้งหลายที่ผิวไหม้กลางลานหิมะสิครับ อาการผิวไหม้ (Sun Burn) สามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ คือระดับ 1 มี การอักเสบเล็กน้อย อาจมีอาการแดงหรือคันควบคู่กัน ควรหลบเข้าร่มทันทีเมื่อมีอาการ ดื่มน้ำให้มากๆ และทาครีมที่ลด Soothing Effect เช่น พวก Aftersun Lotion เพื่อลดอาการแสบร้อนระคายเคืองอาการจะดีขึ้นภายใน 2-3 วันระดับ 2 ผิวปวดแสบปวดร้อนและมีลักษณะบวมแดงให้ปฏิบัติเหมือนกับระดับ 1 ครับ หากวันต่อๆ มาผิวหนังลอกเป็นขุย ให้ใช้บอดี้ออยล์ทาควบคู่กันไป หากเป็นมากจริงๆ ควรไปพบแพทย์ครับระดับ 3 ผิวพุพองเหมือนโดนน้ำร้อนลวก ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีครับ เพราะถ้าแผลติดเชื้อและผิวหนังอักเสบ อาจทำให้เกิดแผลเป็นได้ ในบางกรมีอาจต้องให้น้ำเกลือด้วยถ้าขาดน้ำมากๆ ซึ่งถ้าผิวไม่ติดเชื้ออะไรรุนแรง ผิวจะหายเป็นปกติใน 1 เดือนครับ10 ข้อดีของแสงแดด1.ป้องกันโรคกระดูกพรุนและโรคกระดูกอ่อน เพราะช่วยสร้างวิตามินดีที่ช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ทำให้กระดูกแข็งแรง2.ป้องกันโรคทางเดินหายใจ โรคหอบหืด และทำให้ระบบหายใจทำงานดีขึ้น ทั้งจากวิตามินดีและความอบอุ่นของแสงแดด3.ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ลดโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทำให้หัวใจแข็งแรง4.ช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งปากมดลูก5.ช่วยในการทำงานของระบบประสาท ทำให้สมองประมวลผลได้เร็วฉับไว6.ทำให้จิตใจเบิกบาน ป้องกันโรคซึมเศร้า หากกำลังจิตตกก็ลองไปอาบแดดอ่อนๆ ดูสักพัก รับรองว่าช่วยได้ครับ7.ป้องกันโรคอ้วน และช่วยในการลดน้ำหนัก8.กระตุ้น การไหลเวียนของเลือด ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ผิวจึงมีสุขภาพดี มีเลือดฝาด และผิวหนังแข็งขึ้น รวมทั้งช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ เช่น โรคสะเก็ดเงิน 9.ป้องกันโรคกล้ามเนื้อเช่น Myopathy ได้แก่ กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือปวดกล้ามเนื้อ 10.กระตุ้นเอนเดอร์ฟินที่ทำให้ร่างกายตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า เหมาะกับกีฬากลางแจ้ง10 ข้อเสียของแสงแดด1.รังสียูวีในแสงแดดทำให้ผิวหมองคล้ำเป็นจุดด่างดำ สีผิวไม่เนียนเรียบ2.รังสียูวีและ Visible Light ทำให้เกิดการสร้างเมลานินที่ผิดปกติ เป็นสาเหตุของฝ้าและกระ3.แสงแดดเป็นอนุมูลอิสระ ซึ่งทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอยก่อนวัย4.ทำให้ผิวแห้งเหี่ยว เพราะคอลลาเจนที่ทำให้ผิวเต่งตึงถูกทำลายโดยรังสียูวี5.การโดนแดดแรงๆ หรือเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดผิวไหม้ จนเกิดผิวหนังอักเสบได้6.แสง แดดเป็นอันตรายต่อกระจกตาและเลนส์แก้วตา ทำให้เป็นต้อ จึงไม่ควรมองดวงอาทิตย์โดยตรง หรือหลีกเลี่ยงการใช้สายตาในแดดจัดๆ โดยไม่สวมแว่นกันแดด7.สิวบางชนิดอาจกำเริบเมื่อโดนแสงแดด8.แสงแดดและความร้อนทำให้ร่างกายขาดน้ำ อาจทำให้เป็นลมแดด หรือตะคริวแดด9.หากโดนแดดเป็นประจำ อาจส่งผลให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ 10.แสงแดดจะกระตุ้นอาการผื่นคันให้กำเริบในคนที่เป็นโรค SLE