โลกแห่งการค้นหา..เพื่อชีวิต

สิ่งทอเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆในฮังการี

อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าแฟชั่นในยุโรป ต้องประสบปัญหาทางด้านการแข่งขันจากประเทศที่มีค่าแรงงานต่ำตั้งแต่ปี 2513 เป็นต้นมา และเมื่อหลังปี 2538 ปัญหาก็เริ่มรุนแรงขึ้น หลังจากการยกเลิกระบบโควต้าอย่างต่อเนื่อง ตัวการสำคัญที่เร่งให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น เมื่อประเทศจีนเข้าร่วมเป็นสมาชิก WTO ในปี 2545 และโควต้าสุดท้ายได้ถูกยกเลิกไปเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2551 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายในยุโรป ต่างยอมรับเงื่อนไขของการเปลี่ยนแปลงตามกระแสโลกาภิวัตน์ จนกลายเป็นข้อได้เปรียบและโนว์ฮาวของอุตสาหกรรมในเวลาต่อมา ฐานการผลิตสินค้าจะถูกจัดตั้งขึ้นในประเทศที่มีค่าจ้างแรงงานต่ำ ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพการผลิตและมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนเพิ่มอัตราการจ้างงานให้สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในปี 2551 ผลผลิตของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายในสหภาพยุโรปสูงถึง 200 พันล้านยูโร ด้วยจำนวน 147000 บริษัท และอัตราการจ้างงานถึง 2จุด3 ล้านคน อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆฮังการีขึ้นอยู่กับตลาดยุโรปเป็นส่วนใหญ่ ด้วยอัตราร้อยละ70 ของการผลิต ในฮังการี อุตสาหกรรมนี้มีการสูญเสียอย่างหนักในช่วงระยะ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนับว่ามากกว่าประเทศส่วนใหญ่ในสหภาพยุโรป หนึ่งในเหตุผลหลักก็คือ สาขานี้ไม่สามารถตอบรับ หรือแก้ไขสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้ กล่าวคือ สูญเสียเสรีภาพจากตลาดภายในประเทศ และความล้มเหลวในตลาดยุโรปตะวันออก ระหว่างช่วงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ สาขานี้สร้างความน่าสนใจต่อการลงทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การลงทุนส่วนใหญ่จะเน้นไปทางด้านเทคนิคและเทคโนโลยีเป็นจำนวนมาก ปัญหาดังกล่าวมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอมากกว่าเครื่องแต่งกาย เพราะตั้งแต่วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า การลงทุนของอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายจึงลดลง จากข้อมูลสถาบันสถิติ KSH ในปี 2551 ผลผลิตของอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายฮังการี คือ 201 พันล้านโฟรินท์ (ประมาณ 750 ล้านยูโร) เป็นของอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายร้อยละ 56 และสิ่งทอร้อยละ 44 การส่งออกสร้างเม็ดเงินได้ 146 พันล้านโฟรินท์ (ประมาณ 540 ล้านยูโร) คิดเป็นร้อยละ 73 ของผลผลิตทั้งหมด มีการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 50000 คน และเป็นพนักงานสตรีมากกว่าร้อยละ 80 การจัดกลุ่มแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกาย (โดยทั่วไปแล้วเป็นที่ยอมรับและใช้ในวงการสถิติการวิเคราะห์ทางภาคอุตสาหกรรม และแผนพัฒนาทางเทคโนโลยี) ส่วนการจัดกลุ่มอื่นๆ ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้งานของสาขา เช่น สาขาเครื่องแต่งกาย และสิ่งทอในครัวเรือน เน้นการถ่ายทอดวัฒนธรรมและประเพณี ผ่านทางศิลปะความงามซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะของสินค้าเป็นสำคัญ สาขาเทคนิคสิ่งทอ เปรียบเสมือนสายงานใหม่ที่กำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี 2513 และเป็นสาขาที่เติบโตมากที่สุดในส่วนของอุตสาหกรรมสิ่งทอ สาขาเทคนิคสิ่งทอเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 26 ในปี 2546 เป็นร้อยละ 30 ในปี 2551 ขณะที่สาขาสิ่งทอในครัวเรือนไม่มีการเปลี่ยนแปลง และสาขาเสื้อผ้าแฟชั่นอินเทรนด์ลดลงร้อยละ 4 ในช่วงเวลาเดียวกัน