โลกแห่งการค้นหา..เพื่อชีวิต
เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่5-4
“นี่ดา เธอไม่งงบ้างเหรอ เดี๋ยวที่รัก เดี๋ยวฮันนี่ เบบี๋ ฉันฟังยังงงแทนเลย” “งงสิ ถึงได้เปลี่ยนมาใช้สรรพนาม เมื่อก่อนเรียกชื่อ เรียกผิดเรียกถูก เคลียร์เกือบตาย” นลินเกาศีรษะแกรกๆ ไม่อยากเชื่อว่าคนเราจะทำไปได้ “แล้วทำไมต้องคั่วเยอะขนาดนั้น ทีละคนไม่ได้เหรอ” “แหม! ก็คนมันเสน่ห์แรงนี่จ๊ะ เสียดายด้วย แต่ละคนกระเป๋าหนักๆ ทั้งนั้นเลย” พูดจบวิยะดาก็ยกข้อมือขึ้นเพื่ออวดนาฬิกาเรือนใหม่ที่เหยื่อรายล่าสุดเพิ่งให้เป็นของกำนัล “เป็นไง นกน้อย สวยมั้ย เรือนนี้เหยียบหมื่นเลยนะ” เพื่อนสาวมองนาฬิกาตาโต สติ๊กเกอร์แต่งรถกระบะ “สวยจังเลย คนไหนให้มา ฮันนี่หรือที่รัก” หล่อนถามอย่างตื่นเต้น นึกอิจฉาเหมือนกันที่เพื่อนมีแต่ข้าวของสวยๆ งามๆ และราคาแพง วิยะดานิ่งคิดอยู่ชั่วขณะก่อนตอบ “อันนี้ดาร์ลิ้งให้จ้ะ” นลินอ้าปากค้างขณะมองเพื่อน “หา! ยังมีดาร์ลิ้งอีกคนเหรอ” คนพูดกุมขมับอย่างเวียนศีรษะแทน “นี่เธอสับรางยังไงเนี่ย ตั้งสามคน นี่ปรมาจารย์ตั๊กม้อเลยนะ” หล่อนเอ่ยอย่างทึ่งในความสามารถของเพื่อนโดยแท้จริง “ฝีมือระดับนี้แล้วไม่มีพลาดหรอก” น้ำเสียงและสีหน้าของวิยะดาเน้นย้ำความมั่นใจ “ทำไมเธอไม่คบคนเดียวไปเลยล่ะ เอาแบบจริงจังไปเลย ดีกว่ามาคบเล่นๆ หลายๆ คนแบบนี้” นลินเสนอความคิดเห็นอย่างหวังดี วิยะดาเงยหน้ามองเพื่อน พลางทำหน้าเหมือนเพื่อนสาวถามอะไรโง่ๆ ไปได้ “ทำไมฉันจะไม่อยากจริงจัง แต่ทั้งฮันนี่ ที่รัก ดาร์ลิ้ง ก็แสบใช่ย่อยซะที่ไหนล่ะ บางคนมีเมียแล้วนะ เชอะ! ผู้ชายมีเงินพวกนี้ไม่มาคิดจริงจังกับผู้หญิงจนๆ อย่างเราหรอก จะให้เหมือนในนิยาย นางเอกจน เจอพระเอกรวย แล้วพระเอกก็รักนางเอกหัวปักหัวปำสติ๊กเกอร์แต่งรถมอเตอร์ไซด์ ไม่คิดมองนางร้ายที่รวยแสนรวยน่ะหรือ โน่น...อีกสิบชาติก็ยังไม่มีทางเป็นไปได้เลย สมัยนี้คนรวยเค้ามองคนรวยด้วยกัน เงินต่อเงิน ส่วนพวกเรา ถ้าอยากสุขสบาย ก็ต้องยอมเป็นดอกไม้ริมทางให้เขาดอมดม ไม่งั้นก็ต้องมองแค่ผู้ชายจนๆ เหมือนกับเรา มันเป็นสัจธรรมของชีวิตยุคนี้” หน้าตาของเจ้าหล่อนไร้ความรู้สึกขณะพูด ราวกับเรื่องที่พูดเป็นเรื่องสุดแสนธรรมดา นลินฟังด้วยความเข้าใจ การมองหารักแท้อาจเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ แต่ก็ยังแอบค้านในใจว่าผู้หญิงจนๆ อย่างเราๆ จะไม่มีโอกาสไปสะดุดตาสะดุดใจผู้ชายรวยๆ สักคนบ้างหรืออย่างไร ใครจะไปรู้ สักวันผู้หญิงอย่างหล่อนอาจได้แต่งงานกับผู้ชายรวยๆ ก็ได้ “ฉันก็เข้าใจนะ แต่เธอเล่นให้ดอมดมกันจนสับรางไม่ทันแบบนี้ ไม่ช้ำแย่หรือ” นลินถามอย่างกังขา มองเพื่อนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก ถึงอย่างไรวิยะดาก็อายุแค่ยี่สิบเจ็ด แต่ท่าทาง ความคิด การกระทำ และคำพูดคำจา ดูแก่กล้าเกินอายุ จะว่าไปหล่อนก็เป็นคนสวยคนหนึ่ง นึกๆ แล้วก็เสียดายดอกไม้ดอกนี้ ที่กลีบดอกต้องมาช้ำก่อนถึงเวลาร่วงโรยสติ๊กเกอร์แต่งรถ