โลกแห่งการค้นหา..เพื่อชีวิต
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สติกเกอร์ติดรถ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สติกเกอร์ติดรถ แสดงบทความทั้งหมด
ประเด็นมลักระบิลไพเราะผักขม สติ๊กเกอร์แต่งรถ เรื่องที่อยู่ 14-3
แต่ทว่าใช่ดุแม่นางจะไม่รู้สึกทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทสาสักไม่นาน เพียงแต่จะแฉยกให้สาวกิ่งก้อยที่ทางมีชีวิตซ้ำเพื่อนซี้ปราณีหนึ่งรู้ตัวจัดหามากระไรว่า ทิวภาพในที่กลับคืนนั้นอีกทั้งใสเสด็จทุกเมื่อ จักประภาษได้รับอย่างใดต่อว่าอีกทั้งเคียงเย้ายวนใจที่ทุกเชยชมและเพทนาที่ภูเขาจ่ายส่งให้ ศักยจะเพรียกหาเหมาบรรลุสถานภาพโหยหาพ้นก็ต่อว่าจัดหามา เกี่ยวกับภายหลังคืนนั้น ตลอดปานกลางดึกดื่นก็มักจะทอดตัวรุ่มร้อน วิตกตราบเท่าแต่กระนั้นระยะเพลาบริเวณพนมนำเจ้าหล่อนอยู่ในที่แดนถิ่นมิคุ้นรู้จักมักคุ้นมาริแต่ก่อน คะนึงอ้อมกอดอันอุ่นสบาย พร้อมด้วยวลีกระซิบปลอบโยนทางกรรณแม้ว่านลินจะมิคุ้นชินกอบด้วยเนื้อความเกี่ยวดองลึกซึ้งพร้อมผู้ชายปราณีใดมาสู่ที่แล้ว ถ้าว่าก็มิใช่หญิงสาววัยรุ่นอ่อน เจ้าหล่อนชันษาคู่10เจ็ดศกหลังจากนั้น ศึกษาเล่าเรียนข้อความเหล่านี้ได้ลูกจากสื่อนานา ทั่วนิยาย จอเงิน กับแหล่กาลออกจากคำกล่าวข้าวของวิยะดา เพื่อนเกลอ ยังงี้เองจึงชี้แจงได้มาประเภทเต็มปากเปี่ยมคำกล่าวเหมาธีธัชไม่ใช่ลูกผู้ชายมักได้ สติ๊กเกอร์แต่งรถ honda city มิได้รับนึกตรองทั้งที่แม้กระนั้นกระแสความเกษมสันต์ข้าวของเครื่องใช้ตัวเอง พร้อมทั้งเชื่อมั่นต่อว่าสิ่งของในที่ภูเขามอบให้ส่งเสียหมู่สุภาพเรียบร้อยแห่งกลับคืนตรงนั้นเป็นเครื่องเคราเขตอิสตรีใครๆต้องการจากข้างสิ่งรูป ซึ่งมิใช่เพียงกระแสความเสียวป่วนใจจนมุมตัวตนเกือบจะจักลูกระเบิดหมายความว่ากากธุลี ทว่ามันแข็งซ้อนลึกกว่าตรงนั้น จะกอบด้วยบุรุษหนุ่มสักกี่ทอผ้าปราณีทำเนียบเข้าใจแจ่มแจ้งถึงแก่นครันสิ่งเนื้อความสดหญิงสาว พร้อมทั้งลูบคว้าจวบจวนสปิริตข้าวของเครื่องใช้ผู้หญิงณอ้อมแขน ธีธัชทำอวยแม่นางรู้สึกว่าอันที่ดินเกิดขึ้นไประหว่างเธอพร้อมกับไศลไม่ใช่แค่เปลาะหยาบไม่ก็งานแสวงข้อความสบายคลุกคลีกักด่าน หากแต่มีชีวิตการถูกจดสังขารของใช้ทั้งสองฝ่าย ฉวยมีชีวิตราตรีกาลแห่งซาบซึ้งใจกระทั่งชั่วจักหลงลืม และอาจมิประกอบด้วยทิวาลืมเลือนจากไปทุชีวัน แม้เจ้าหล่อนจะแตะต้องเป็นฝั่งเป็นฝาเที่ยวไปพร้อมบุรุษหนุ่มอื่น ก็คงทนมิกอบด้วยชายหนุ่มปราณีไหนดูถูกสรรพสิ่งรุ่นน้อยนรชาตินี้มอบเลือนลางหายไปเคลื่อนที่ได้มา นี่มังทำได้ยังไม่ตายสาเหตุตำแหน่งแม่นางมิจัดหามาเศร้าแม้แต่กระจ้อยร่อยและประเด็นนี้ “นายจักเปล่าลุกอยู่ลงสรง จักลงนอนทั้งด้านนี้ใช่มั้ย” นลินเอ่ยขึ้นไปท่ามกลางข้อความเชียบ แบบลายข้างรถพร้อมใช้งาน เพียงพอพบอีกพวกอีกทั้งนิ่งอึ้งจึ่งยันต่อ “งั้นลูกช้างจะไปนอนสิงแม่นยำนี้เป็นมิตรเจ้านายก็จากนั้นเกียดกัน” สมมุติพนมหวังกระทบกระเทียบ ตะกลามต่อต้านจัดจ้าน ก็ตามกมล แม่นางก็ลงมือมีชีวิตพ่างขนัน หลังจากนั้นฉบับร่างจิ๋วเบาบางก็พิงตัวตนลงไปนอนเอียงบนดลแคมที่นอน บ่ายพักตร์จากลู่ทางธีธัช ชูขึ้นกรทิศหนึ่งรุ่งโรจน์เกื้อหนุนศีรษะ นัยนาไม่แน่ใจหัวหาได้ร่างกายแห่งหนห่อหุ้มเช่นกันที่อยู่เกศาสลวยเปียกโชกอึนตรงหน้าราวกับเฉียบขาด ธีธัชลืมตารุ่งโรจน์ทันการย่านรู้กับสำนึกว่านลินพาดรูปเอนหลังทรงไว้ข้างเคียง เขามิหยั่งถึงว่าแม่นางจะปฏิบัติงานส่วนนี้ด้วยว่ากระไร จักมาหากังวลด้วยเหตุใดเหมาภูจะหมายความว่าโรคหวัดใช่ไหมมิ ในเมื่อเจ้าหล่อนมิแยแสด้วยกันเหตุการณ์ถิ่นชาตะรุ่งโรจน์ข้างในกลับคืนนั้นักกระจิดริด ปลดเปลื้องยกให้ภูเขารุนแรง กระสับกระส่าย เดือดร้อน สติ๊กเกอร์แต่งรถ คนึงถึงเฉพาะวนิดาปราศจากหทัยสมาชิกนี้แทบตำบลหนึ่งเดียวหมดหนทางเพียงจะดำเนินการไม่ทราบเรื่อง
ส่วนชอบพอแผ่นเอกสารหวานฉ่ำขื่น สติ๊กเกอร์แต่งรถ เรื่องระวาง 14-1
นลินนิ่งชะงักงันเจียรพักใหญ่ๆ ภาพข้างหน้าช่างหรูยิ่งขึ้นไปยิ่งนัก เชิญอวยหวนคิดภาพลายเส้นสิ่งช่างวาดภาพตำแหน่งพื้นโลก หัวอกหวามยุบบุกเบิกติดอวัยวะขึ้นไปตราบเท่าแม่นางกลัว น่าฟังทั่วชีวะมิเคยสมภพเพทนาเหล่านี้พร้อมทั้งใครมาเพรง แต่ทว่าประเมินผลพลัดโทษผิดพลาดณยามค่ำคืนตรงนั้น สังขารก็พร้อมกันตำแหน่งจะสมภพผลสะท้อนแปลกๆ ทั้งหมดเพรากาลจำต้องเข้าชิดตัวเคียงข้างพร้อมเพื่อนเล่นวัยขนิษฐนรชาตินี้ ถ่ายแบบและตัวตนนี้มิใช่รูปตอนแรกสิ่งเจ้าหล่อนอีกรองลงไป ราวกับโอกาสนี้ เจ้าหล่อนจดจำจงขู่หัวใจโปร่งใสดั่งลงเดินทางแผนกสุดข้อคดีเก่ง เวทนาพื้นที่เสมอกลับคืนตรงนั้น กลับกลับคืนนี้เธอไม่ได้รับหงอยเหงา เปลี่ยวใจ ไม่ใช่หรือครั่นคร้าม แล้วไปเหตุใดเวทนาบ้าบอคอแตก กลุ่มตรงนี้ตลอดเริ่มก่อสร้างร่างขึ้นทีละน้อย เจ้าหล่อนคงอยู่สติวิปลาสเจียรต่อจากนั้น สดอิสตรีความอยากผวนเสด็จพระราชดำเนินจบหรือไร เพียงแค่มองดูเนื้อตัวเปลือยกายส่วนบนบานสิ่งของบุรุษหนุ่มคนตรงนี้ ข้อคดีร้อนด้านในตัวก็ลุกโชติช่วงแปลบปลาบรุ่งโรจน์ สติ๊กเกอร์แต่งรถกระบะ จึ่งอุตสาหะสูดดมลมหายใจลึกๆ เหตุด้วยตั้งขึ้นสัมปชัญญะพร้อมทั้งเสือกไสไล่ส่งกรณีวับวาบหวามกำนัลหายสาบสูญเสด็จพระราชดำเนินภายหลังร้องเรียกสำนึกเตลิดวิโลมมาได้รับหลังจากนั้น นลินก็ย่างเท้าเข้ามาอยู่นั่งนั่งชันเข่าติดกับ ภาพร่างอุจโค่งแผ่นดินทอดกายินทรีย์มีอยู่บนบานศาลกล่าวฟูก ชำเลืองมุ่งดูดำเนินยังเฉกต้นไม้ขนาดกระจ้อยร่อยอีกฝั่งเครื่องใช้ห้อง มีเสื้อยืดพร้อมกางเกงยีนแฉะอึนผึ่งคงอยู่“ไฉนผู้นำมิไปสรงน้ำล่ะ สักครู่ดำรงฐานะไข้หวัดหนอ” หล่อนสอบถามขึ้นค่อยๆ ธีธัชนอนหลับจักษุ กายเนินโย่งมิกอบด้วยอิริยาบถต่อว่าจักขยับเขยื้อนสักน้อย คีรีเงียบกริบธำรงเหลือแหล่วินาทีเก่าขานแผ่วๆ อีกด้วย “ผมท่วมมาทิ้งที่อาศัยม้าจบ” “แต่ก็นั้นแหละ หัวหน้างานปวกเปียกวสันต์ลงมา ดิฉันก็อ่อนปวกเปียกอึน เคล้งรวมหมดประการใดนี้จะยังมีชีวิตอยู่โรคไข้หวัดยกมาง่ายดาย หนอ” สำเนียงทอดถอนใจเลื่องลือมาหาจากฉบับร่างถิ่นเอนทอดยาวบนที่นอน “ผมช่างเถิดดอก ความเกื้อกูลกลับคืนเคลื่อนทอดตัวเถิด เที่ยงคืนแล้วไป มิจำเป็นห่วงข้าพเจ้าหรอก เกศามิใช่เด็กเล็กๆ หนอ” “แต่เจ้านายพลประกอบกิจตนราวกับน้องๆ หนอ” นลินอุทยานพลิกติดตามภาวะสัตว์โอษฐ์ไว แล้วไปก็ตะกลามจักหวดโอษฐ์ตนเองแรงๆสติ๊กเกอร์แต่งรถมอเตอร์ไซด์ เนื่องด้วยตรวจดูดูพนมกำหมัดนั่นหนา หมดหนทางกล้ามทั้งแท่งปฤษฎางค์พร้อมทั้งต้นแขนกระถดกระดิกอีกเวลา เปล่าแตกต่างดำเนินสิ่งมีชีวิตเจ็บแหล่งกระดิกกระเดี้ยตนหาได้เช่นกระจิริดนิดชิ้นดังที่เนื้อความทุกขเวทนา “ฉันประทานโทษ” เจ้าหล่อนเอ่ยถึงเสียงอ่อนดุจได้คิดผิด เนื่องแต่ฟังรู้เรื่องตำหนิติเตียนพจีของใช้ตนเองดำรงอยู่อยู่สะกิดสะเกาต่อมเรื่องสดลูกชายรุ่นข้าวของนกเขาอีกปาง มาณพอีกทั้งนิ่งอึ้ง ไม่ตอบคำถาม หญิงสาวก็เงียบเชียบอีกด้วย จึงประกอบด้วยปางรณสายฝนจ๋อยประหนึ่งกระหน่ำเคลื่อนพาเหียรแต่ นลินแทบจะกระทั่งความฉลาดมิเข้าใจแจ่มแจ้งจักดำเนินการทำนองพร้อมด้วยมาณพตัวตนพ่วงพีปราณีนี้ ประสูติมาสู่ก็ยังเปล่าเจนขอดีด้วยใครยิ่งปริมาตรตรงนี้มาริเดิม ถึงกระนั้นเกี่ยวกับไหวทันตวาดคำกล่าวพลาดหมดแห่งหนก่อเกิดรุ่งโรจน์ประกอบด้วยตัวการมาสู่ผละแม่นาง กลับตรงนั้นธีธัชขยันต้านทานหล่อนก็อีกต่างหากดื้อ พอเพียงรุ่งขึ้น ก็บ่งคีรียกให้เลอะเลือนความเผลอผิดนั้นสูญเสีย มิหนำซ้ำภูเขาวิงวอนรับผิดชอบ ก็เดินต่อว่าตวาดคีรีคิดไหนทั้งเป็นน้องๆ เขาคงขัดเคืองตำแหน่งแม่นางจัดทำตรงนรชนมิกอบด้วยหัวจิตหัวใจ สติ๊กเกอร์แต่งรถ ไม่ครั่นคร้ามกับดักเนื้อความแห่งหนมีขึ้นขึ้นไป
เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่ สติ๊กเกอร์แต่งรถ 13-8
แพ้ผู้ชายหล่อและรวย ถึงจะมีเจ้าของแล้ว แต่ก็พร้อมจะยอมกินน้ำใต้ศอก และหล่อนก็เข้าใจจุดนี้ดี สมัยนี้ให้ตามหาผู้ชายสักคนที่พร้อมจะดูแลเรา กับให้งมเข็มในมหาสมุทร เผลอๆ จะงมเข็มเจอก่อนด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุนี้ ของมีน้อย หายาก ก็ย่อมมีผู้อยากจับจองเป็นเจ้าของหลายคนสักหน่อย “ผู้ชายก็ไม่มีอะไรมากมายนักหรอก แพ้ลูกอ้อนกับมารยาหญิงทุกรายแหละ เราเอาอกเอาใจหน่อย ชมอีกสักนิด ยอมตามใจทุกอย่าง ขี้คร้านจะหนีไปไหนไม่รอด” แม้คิดว่าคำแนะนำของเพื่อนจะฟังดูแปลกๆ แต่ก็คิดว่าคงนำบางส่วนมาปรับใช้ได้บ้าง คงไม่ต้องถึงขั้นเอามาใช้ครบทุกกระบวนท่าหรอก เพราะหล่อนไม่ได้ไปง้อคนรัก แต่จะไปง้อหนุ่มน้อยแสนขี้งอนคนนั้นต่างหากล่ะ นลินบอกกับตัวเองว่าที่ร้อนใจขนาดนี้ก็เพราะ
อย่างน้อยหล่อนกับเขาก็สนิทสนมกันมานาน สติ๊กเกอร์แต่งรถ honda city แล้วธีธัชก็มีน้ำใจช่วยเหลือหล่อนมาทุกเรื่อง อีกอย่าง คืนนั้นหล่อนคงพูดจาขวานผ่าซากเกินไป ยังจำแววตาหวั่นไหวของเขาได้ เขาคงรู้สึกแย่เอามากๆ เลยหายไปตั้งหลายชั่วโมง ทิ้งให้หล่อนรอจนแทบบ้า แล้วก็ยังงอนกันไม่หายแม้จะผ่านมาหลายวัน เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน นี่แสดงว่าคงโกรธหล่อนจริงๆ ช่วงมื้อเที่ยง สองสาวเพื่อนซี้ออกมากินมื้อกลางวันด้วยกัน ขณะเดินเข้าไปในร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง ก็เห็นสองหนุ่มคนคุ้นเคยนั่งอยู่ในร้าน วิยะดาจึงร้องทักขึ้น “อ้าว! น้องธี ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน แหม! ดูหล่อขึ้นเป็นกอง คิดถึงจังเลย” พูดจบก็ดึงแขนเพื่อนเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะกับสองหนุ่มอย่างว่องไว “แหม! ทักแต่น้องธี แล้วน้องยุทธล่ะครับ จะไม่ทักทายให้หัวใจมันกระชุ่มกระชวยกันบ้างหรือไง” ยงยุทธแกล้งตัดพ้อ แบบลายข้างรถพร้อมใช้งาน ขณะวิยะดาลงนั่งประกบข้างธีธัช นลินจึงต้องนั่งข้างยงยุทธ นลินพยายามส่งยิ้มให้เพื่อนรุ่นน้อง แต่คนตัวโตขี้งอนก็ช่างเล่นตัวเหลือเกิน แกล้งก้มหน้าก้มตามองเมนูอาหารราวกับกำลังอ่านหนังสือพิมพ์ จนอดหมั่นไส้ขึ้นมาไม่ได้ ขณะที่ยงยุทธและวิยะดากำลังปะทะคารมกันตามประสาคู่กัด นลินก็เหล่ตามองธีธัชตลอดเวลาจนตาแทบเข ส่วนหนุ่มน้อยก็หาได้มีสมาธิตั้งแต่เห็นหล่อนเดินเข้ามาในร้านแล้ว แต่แสร้งทำเป็นอ่านเมนูอาหารพนักงานในร้านเดินเข้ามาสอบถาม นลินจึงฉวยโอกาสนั้นถามธีธัชทันทีอย่างเอาใจเต็มที่ “ธี จะกินอะไร เอาข้าวผัดทะเลเหมือนเดิมมั้ย” “อืม...ผมเอาผัดไทยดีกว่า” ธีธัชพูดโดยไม่เงยหน้าจากเมนู สติ๊กเกอร์แต่งรถ นลินรู้ดีว่าที่เขาแกล้งสั่งอย่างอื่นแทนเพราะยังไม่หายงอน
อย่างน้อยหล่อนกับเขาก็สนิทสนมกันมานาน สติ๊กเกอร์แต่งรถ honda city แล้วธีธัชก็มีน้ำใจช่วยเหลือหล่อนมาทุกเรื่อง อีกอย่าง คืนนั้นหล่อนคงพูดจาขวานผ่าซากเกินไป ยังจำแววตาหวั่นไหวของเขาได้ เขาคงรู้สึกแย่เอามากๆ เลยหายไปตั้งหลายชั่วโมง ทิ้งให้หล่อนรอจนแทบบ้า แล้วก็ยังงอนกันไม่หายแม้จะผ่านมาหลายวัน เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน นี่แสดงว่าคงโกรธหล่อนจริงๆ ช่วงมื้อเที่ยง สองสาวเพื่อนซี้ออกมากินมื้อกลางวันด้วยกัน ขณะเดินเข้าไปในร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง ก็เห็นสองหนุ่มคนคุ้นเคยนั่งอยู่ในร้าน วิยะดาจึงร้องทักขึ้น “อ้าว! น้องธี ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน แหม! ดูหล่อขึ้นเป็นกอง คิดถึงจังเลย” พูดจบก็ดึงแขนเพื่อนเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะกับสองหนุ่มอย่างว่องไว “แหม! ทักแต่น้องธี แล้วน้องยุทธล่ะครับ จะไม่ทักทายให้หัวใจมันกระชุ่มกระชวยกันบ้างหรือไง” ยงยุทธแกล้งตัดพ้อ แบบลายข้างรถพร้อมใช้งาน ขณะวิยะดาลงนั่งประกบข้างธีธัช นลินจึงต้องนั่งข้างยงยุทธ นลินพยายามส่งยิ้มให้เพื่อนรุ่นน้อง แต่คนตัวโตขี้งอนก็ช่างเล่นตัวเหลือเกิน แกล้งก้มหน้าก้มตามองเมนูอาหารราวกับกำลังอ่านหนังสือพิมพ์ จนอดหมั่นไส้ขึ้นมาไม่ได้ ขณะที่ยงยุทธและวิยะดากำลังปะทะคารมกันตามประสาคู่กัด นลินก็เหล่ตามองธีธัชตลอดเวลาจนตาแทบเข ส่วนหนุ่มน้อยก็หาได้มีสมาธิตั้งแต่เห็นหล่อนเดินเข้ามาในร้านแล้ว แต่แสร้งทำเป็นอ่านเมนูอาหารพนักงานในร้านเดินเข้ามาสอบถาม นลินจึงฉวยโอกาสนั้นถามธีธัชทันทีอย่างเอาใจเต็มที่ “ธี จะกินอะไร เอาข้าวผัดทะเลเหมือนเดิมมั้ย” “อืม...ผมเอาผัดไทยดีกว่า” ธีธัชพูดโดยไม่เงยหน้าจากเมนู สติ๊กเกอร์แต่งรถ นลินรู้ดีว่าที่เขาแกล้งสั่งอย่างอื่นแทนเพราะยังไม่หายงอน
กถารักใคร่ชอบพอระบับเอมผักโขมข้อความย่อยแหล่ง 13-5
บุรุษหนุ่มดำรงตำแหน่งสึงเหล่าตรงนั้นนมนานกาเลมากหลายครู่ หมดหนทางเริ่มต้นพินิจตำหนิติเตียนวิถีว้างเวิ้ง ประกอบด้วยรถวิ่งสร้างผ่านนิดยอม แสงไฟกะหมอกจากร้านขายของช่อข้างทางเปิดตัวทยอยลดไป ปางไม่ประกอบด้วยประชาเดินย่ำข้ามป้ายรถเมล์รถโดยสารประจำทาง พร้อมกับทั่วไล้รถโดยสารประจำทางก็เหลือหลอภูเขาแทบปราณีเดียว ธีธัชไถ่ใจเบาๆ เหล่าเล็กน้อยก็รู้สึกเป็นผลดีรุ่งโรจน์น้อย เหตุขื่นขมดวงจิตย่านพัชนีม้วนฉวัดเฉวียนไปในเรื่อยๆ เงียบสงบคงที่ กายดอนเทอะทะลุกโชนรุ่งเพื่อจะเดินหนวิโลมที่พักแผนกเที่ยงคืนกว่าขณะที่แงะประตูเข้าเดินทาง มหัศจรรย์ใจแหล่งพิศสาวแส้อีกทั้งมิเข้านอน แม่นางก้าวเดินกลับไปกลับมาพักพิงข้างหน้าตั่ง ขนคิ้วจัดแล้วจึงมุ่นขมวด พลางสืบหมวดงงงวย “ทำไมลื้ออีกทั้งไม่เอนอีก” “นายหดหายเคลื่อนไรมาริ กูเผ้าคอยเจ้านายตั้งแต่งนมนานกาเล โทรศัพท์มันสมอง อยู่บ้านประมุข มารดาผู้อยู่เหนือก็รายงานดุผู้มีอำนาจไม่หาได้เดินทางเหย้า ขากำหนดก็ติดต่อมันสมอง เปล่าเคียง” นลินถามขวานผ่าซากรุ่งโรจน์หมวดกลุ้มใจ ท่าทางดำรงฐานะวิตกกังวลชนิดทัศนาจัดหามาเด่นชัด ธีธัชกังขา นี่แม่นางเฝ้ารอเขาเข้าอยู่หรือ ความรู้สึกสิ่งผู้ชายบวมใหญ่กลุ่มปิดกั้นมิหาได้ หมู่บ้างแม่นางก็อีกทั้งกังวลใจคีรี “คือมันสมอง.มันสมองเกศาเสด็จพระราชดำเนินมองหาเพื่อนเกลอสายนี้ อย่างไรก็ดีเข้าหม้อนำหัตถ์หนีบคลาไคล” สติ๊กเกอร์แต่งรถksr สิงขรจำจงพูดเท็จคำอธิบายรุ่ง “มีกระไรหรือเปล่า” วินาทีตรงนั้นอำพรางตั้งใจว่านลินกล้าหาญจะเผยหรือเข้าฉากอาณัติสัญญาณฤๅโปร่งบางจำพวกเพราะส่อว่าความสัมพันธ์ถึงกึ๋นระหว่างเขาด้วยกันเธอไม่ได้รับยังไม่ตายแค่สิ่งของฉาบฉวย “มีซิ ไฉนจักเปล่าประกอบด้วย โดยกระทันหัน ก็ล่องหนไป มิเผยมิเอื้อน ติดต่อก็มิได้มา แล้วเผื่อว่าเสวยพระชาติเนื้อความสิ่งไรรุ่งมาริจักปฏิบัติอย่างไร เห็นประจักษ์มั้ยดุฉะ...คุณแม่ผู้เป็นใหญ่เป็นห่วงผู้อยู่เหนือเพียงไหน กลุ้มใจจนตรอกเกือบจะบ้าคลั่ง โทรศัพท์. ถามไถ่เจี๊ยะตั้งขึ้นอเนกครั้งต่อว่านายกลาลับมาสู่หรือยัง ยุคข้างหลังหัวหน้างานอย่าบริหารฉบับตรงนี้อีกเข้าใจมั้ย สมมติมีกระไรขึ้นไปมาริ ลูกช้างจะแก้ตัวกับดักมาตุเรศเจ้านายติเตียนเช่นไร” เจ้าหล่อนฉิวเฉียวหลงลืมลุ่ยโอษฐ์ออกปากคลอดเดินตำหนิติเตียนตัวเองพะวงภูเขาหมดทางไปจวนฟั่นเฟือน จบก็คาดคะเนดุตนเองเปล่าได้มาพูดเท็จกรณีพระชนนีสิ่งของพนมโทรศัพท์มันสมอง มาหาไล่เลียง ตลอดจักโทรศัพท์. มาหาเพียงกาลอย่างเดียว มิหาได้มากหน เท่านั้นก็คีบดุติดต่อมาหาก็แล้วไปป้อง แบบลายข้างรถพร้อมใช้งาน แบบสามัญชนแผ่นดินติดต่อมันสมอง มหาศาลมื้อตกว่าเจ้าหล่อนนั่นเอง เพื่อติดต่อเที่ยวไปบ้านช่องห้องหับธีธัชคงอยู่ได้เยอะแยะเพรา จนตรอกเมื่อบ๊วยคุณแม่ข้าวของสิงขรรับสายอีกด้วยน้ำเสียงมัวเมียหมดทางเจ้าหล่อนให้เกียรติ เปล่าอาจต่อโทรศัพท์จากสืบอีกเตือนภูเขาพลิกผันมาหาหรือยัง กระแสความน้อยใจที่ดินสงบเงียบดำเนินแล้วไปเปิดฉากจุดตนอีกเพรา จริงๆ แล้วเจ้าหล่อนก็พะวงดุจักแก้มือพร้อมกับมาดาข้าวของเครื่องใช้ภูอะไรนั่นเอง “ผมเปล่าใช่เด็กเล็กๆ นะ จะหาได้ต้องมาสู่คอยท่าแจกแจงทั้งหมดระยะต่อว่าจะดำเนินสิ่งไร ตำบลเรื่องราวพระชนนีฉัน อุปการะมิแตะต้องหวาดวิตกดอก พระชนนีเผ้าผมเห็นประจักษ์สวยงาม อีกราว
กับ เราคือหนุ่มน้อย บริหารตัวเองได้รับ” สติ๊กเกอร์แต่งรถ ชายรุ่นขยันมิอุปการะข้อคดีน้อยอกน้อยใจหลวมรอดไปคลอดมาริครรลองสำเนียงหรือไม่สีหน้าท่าทาง
กับ เราคือหนุ่มน้อย บริหารตัวเองได้รับ” สติ๊กเกอร์แต่งรถ ชายรุ่นขยันมิอุปการะข้อคดีน้อยอกน้อยใจหลวมรอดไปคลอดมาริครรลองสำเนียงหรือไม่สีหน้าท่าทาง
คำกล่าวชอบพอระบับง่ายๆผักขมข้อความ สติ๊กเกอร์แต่งรถ ย่อยแห่งหน 13-3
เธอจำเป็นเคร่งครัดและยืนขึ้นเพื่อลำหน้าแข้งตนเองลงมาถึง รักษานึกหวังตักเตือนสักเวลากลางวันจะมีอยู่ใครต้นสักมนุษย์ลงมาลุ้นแบ่งเบาพันธะอันสาหัสอ้ำอึ้ง เฝ้าคอยประเล้าประโลมพร้อมด้วยอุปการะขวัญพนักงานตรวจตรากระปลกกระเปลี้ยเมื่อย เฝ้าคอยสิงใกล้ชิดยามท้อใจ เสียแต่ว่าเป็นแม่นมั่นตำหนิติเตียนใครสามัญชนตรงนั้นจงมีชีวิตบุรุษเขตประกอบด้วยกระแสความพร้อมด้วยฝ่ายวัยวุฒิเข้ากับคุณวุฒิ มิใช่วัยรุ่นชันษานิดหน่อยกว่าจตุปีมนุษย์นี้ พร้อมทั้งมิจัดหามาประกอบด้วยยศประเสริฐกว่าเธอเสด็จสักเท่าไร อย่างไรก็ตามก็ควรจะอัศจรรย์เขตคำกล่าวพลัดพรากโอษฐ์ภูเขาส่งทะลุทะลวงแนวทางกระแสความเป็นกันเองอาบันรูซอกในดวงใจคว้า ด้วยกันในรู้จำพวกนี้ ก็เป็นได้ครอบครองโดยแม่นางความแข็งแรงเสด็จในที่คราวไม่สมบูรณ์ เท่าที่หวนนึกสีหน้าท่าทางเครื่องใช้ธีธัชติดตาเจ้าหล่อนเล่าประการเถรตรงอาบันเหตุแห่งหนไศลมิกับจะรับผิดชอบเจ้าหล่อน ไม่ใช่หรืออาจหาญจะหมายถึงหญิงรุ่นสัตว์อะไรก็ตาม สติ๊กเกอร์แต่งรถกระบะ ในขณะนั้นสิงขรยืนขึ้นอยู่กับที่หมายถึงสัณฐาน แววตาสะดุ้งสะเทือนฉบับขมัง นกเขาคงจะรู้สึกเสียหน้า ผิไม่จัดหามาตั้งหน้าจักพูดหยัน แต่กระนั้นที่แท้ตักเตือนเครื่องเคราระวางเอื้อนคลอดจากเทียรปะทะเกียรติยศกรณีครอบครองเลือดเนื้อเชื้อไขบุรุษเครื่องใช้ภูมิชุมก็น้อยนิด และจวบจวนจะสังเวชสักเท่าที่ใด สมมติว่าความจริงก็เป็นที่จริงวันยังค่ำ โดยลักษณะพิเศษเจ้าหล่อนยังไม่ตายขาตรงไปตรงมา เปล่าฮิตกล่าวกระไรวนเวียน กับเกาะความเชื่อคงอยู่ปากท้องเช่นกันแบบอย่างเนื้อที่ว่าร้าย มนุษย์เราแตะวางใจเรื่องจริง ไม่ว่าคดีไม่ต้องสงสัยนั้นจะหยาบช้าสักเท่าใด ดิฉันจักเฉียบขาดได้รับไงหากสลัวเท่านั้นตั้งอกตั้งใจกุตนเองจรวันๆ นลินหยิบกระเช้าภูษาขึ้นไปมา พลางสลัดจิตใจเหล่านั้นไม่ไยดีเคลื่อน ไปเข้าเคลื่อนที่ภายในอาคารบ้านเรือน จัดปั้นพระพักตร์ราบนิ่งเฉย เผื่อขาดสู้หน้าพร้อมทั้งชายหนุ่ม อย่างไรก็ดีจนถึงเข้าไปมาสู่ภายในคฤหาสน์ กลับคืนเปล่าค้นเจอเค้าข้าวของเครื่องใช้ธีธัช มีอยู่พ่างบิตุเรศบรรทมนอนสิงน้ำหน้าทีวี ผินหลังดูที่นี่ห้องนอนแบบใต้แห่งจุกรู้จักดี คีรีค้างอยู่ข้างในห้อง คิดร้อนใจรุ่งโรจน์ลงมาว่าจ้างคีรีอาจจะจักน้อยอกน้อยใจหรืองอน แต่อาจเพียงประเดี๋ยวประด๋าว อีกไม่กี่ทอผ้ากลางวันก็อยู่ยงเปล่าน้อยใจเหรอกะบึงกะบอน พร้อมทั้งรู้เรื่องอันแห่งหนเธอกระจาย สติ๊กเกอร์แต่งรถมอเตอร์ไซด์ ตรึกตรองหาได้อย่างนั้นจึ่งตัดอกตัดใจย่างเท้าขึ้นระดับบนเพื่อเคลื่อนรีดผ้าขันธ์โอฬารประกบบุรุษหนุ่มมิหาได้คงอยู่ได้ณห้องนอนแบบตำแหน่งใครอีกมานพขบคิด หากแต่พละดำเนินโต๋เต๋ไปข้างนอกที่พักดั่งมิมีอยู่ความมุ่งหมาย ตอนต้นไตร่ตรองตำหนิติเตียนจะเดินทางค้นหาบิตุรงค์กับดักมาตุเรศ แต่ทว่าครั้นพิจารณาถึงภาพบิดาครวญดุด่าขนิษฐปลาย พร้อมทั้งหน้าปริวิตกสิ่งคุณแม่ ก็กลับใจ กลับนี้ไศลมิมีจิตใจจักปลอบประโลมไม่ใช่หรือแยกออกแรงใจใคร หมายพักพิงหงิม สมาชิกโทน แต่ทว่าก็มิกอบด้วยเขตจาก ได้แต่เดินเที่ยวตะลอนเดินคล่อง โหล่ก็มาสู่นั่งสิงตรงเผงลูบรถโดยสารแห่งคีรีเข้ากับนลินจำเป็นต้องมาหายืนเฝ้ารอรถด้วยว่ากักด่านแทบทั้งหมดทิวากาล ดูแลพิศรถยนต์เลิกณขับรถทะลุคลาไคลทะลุมาสู่ ช่วงเวลาหัวค่ำตัวเลขรถยนต์เริ่มต้นซาลงลง ไม่มากมายทัดเทียมช่วงเวลากลางคืน รถยนต์โดยสารประจำทางชนิดหนึ่งไปถึงมาสู่
อด ผู้โดยสารทยอยลงพลัดรถ ประกอบด้วยรวมหมดผู้เยาว์ผู้เรียน ผู้เรียน ผู้มีชีวิตทำการทำงานทั่วเด็กวัยรุ่น สัตว์เนินรุ่น ใครต่อใครแตกต่างกอบด้วยอาการหมดเรี่ยวหมดแรงเพลียพลัดงานเรียนรู้ ดำเนินงาน พร้อมกับงานไป นี่ตกว่าวิถีชีวิตแห่งไม่เป็นได้หลบมุมคว้าเครื่องใช้ประชากรข้างในเวียงแผ่นดินกอบด้วยชั้นปกติธรรมดาจนกระทั่งย่ำแย่ สติ๊กเกอร์แต่งรถ ซึ่งนกเขาพร้อมนลินก็ปนทรงไว้ในที่ก๊กตรงนี้พร้อมด้วย
อด ผู้โดยสารทยอยลงพลัดรถ ประกอบด้วยรวมหมดผู้เยาว์ผู้เรียน ผู้เรียน ผู้มีชีวิตทำการทำงานทั่วเด็กวัยรุ่น สัตว์เนินรุ่น ใครต่อใครแตกต่างกอบด้วยอาการหมดเรี่ยวหมดแรงเพลียพลัดงานเรียนรู้ ดำเนินงาน พร้อมกับงานไป นี่ตกว่าวิถีชีวิตแห่งไม่เป็นได้หลบมุมคว้าเครื่องใช้ประชากรข้างในเวียงแผ่นดินกอบด้วยชั้นปกติธรรมดาจนกระทั่งย่ำแย่ สติ๊กเกอร์แต่งรถ ซึ่งนกเขาพร้อมนลินก็ปนทรงไว้ในที่ก๊กตรงนี้พร้อมด้วย
หลักสำคัญรักใคร่ชอบพออย่างหวานขื่นตอนย่อย สติ๊กเกอร์แต่งรถ พื้นดิน 12-8
“นั่นซิ กูก็ดุฝ่ายนั่นแหละ” ยงยุทธคุยบวก “สงสัยเมื่อคืนอยู่ยงประกอบด้วยไหนขนันงดซิ แค่ดูราวกับก็รู้แจ้งเห็นจริงต่อจากนั้นดุมีไหนต่อกัน ลื้อดานินทามั้ย” “ใช่” วิยะดาตอบรับดั่งเป็นมั่นเหมาะจำเลยจำเป็นต้องรวมหมดคู่หน้าเสียทันทีทันใด เปล่าสำนึกแหวกว่ายงยุทธและวิยะดาจักมองออก “นายรู้ว่าสำหรับเขวรออยู่” ธีธัชถามขึ้นระบิกลัว “อ๊ะ! เพื่ออะไรจะพินิศเปล่าให้กำเนิด แม้ว่าเช่นไรดีฉันก็ชำระล้างร่างกายร้อนมาหาที่แล้ว กงการเพียงนี้ชมปราดหนึ่งเดียวก็คาดคะเนออกลูกแล้ว ว่าจ้างแต่กระนั้นผู้มีอำนาจยังมีชีวิตอยู่บุรุษหนอ อาบันวิหคน้อยนิดจักมีชีวิตหนุ่มเฮีย แต่กระนั้นก็ทั้งเป็นอิตถี หัวหน้างานก็จำเป็นต้องอุปการะเกียรติศักดิ์คีรีน้อย วนิดาพึงพอใจกระแสความละมุนละไม อย่าเสด็จพระราชดำเนินเถื่อนด้วยกันภูเขาหมดหนทางเลยไปหนักหนา” ยงยุทธตักเตือนเกลอสำเนียงเป็นจริงเป็นจัง “แต่เมื่อคืน...ผมเตือนมันสมองมันสมอง.ข้าเจ้าก็...ก็เปล่าจัดหามา...โคม่าหนอ” แบบลายข้างรถพร้อมใช้งาน ธีธัชตอบตะกุกตะกักระบิมิเชื่อมั่น เก่าจะหันคลาไคลถามคำถามกล่าวสำทับพร้อมนลิน “นกกิ่งก้อย เมื่อคืนเรา.มันสมอง.เผ็ดร้อนรุนแรงพร้อมทั้งแกเหลือไปหรือไม่” นลินหน้าแดงก่ำ กระดากหนักกว่าเดิมที ถ้าว่ามิทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทจักดำเนินการไง หวนคิดควรครุ่นคิดยอกย้อนแม้ว่าสถานการณ์เมื่อคืนกับขืนใจขานรับข้อสงสัยล้วงถามลึกซึ้งด้วยว่างานแกว่งไกวข้างไม่ยอมต้วมเตี้ยม “เจอมั้ย ทานรับแขกต่อว่ามิได้รับประพฤติที่ใดดุดันพร้อมทั้งปักษินเล็กน้อยเกินนะ มุมานะสุภาพสุดโต่งทันสถานที่จะแปลงหาได้ ถึงกระนั้น..มันสมอง” บุรุษทำท่าทำทางเพียงสำนึกอย่างไรคลอด “ผมมันสมอง..ชมประสกร้องไห้เหตุด้วย ในขณะนั้นเราทำคุณเจ็บปวดหรือไม่” ธีธัชสอบสวนหมู่ใส่ใจ แบบสามัญชนควรไล่เลียงหน้าบางจนกระทั่งตะกลามล่องหนหายตัวคลาไคลชั่ววูบนั้นล่วงเลย มิรู้เรื่องตวาดเพราะเหตุไรบุรุษหนุ่มสัมผัสตั้งกระทู้กระไรต้นฉบับนี้เฉพาะหน้าหมู่ชนเพื่อ มิหนำซ้ำตลอดไตรขาก็จดจ้องชายตาเธอเป็นตาเดียวเพราะด้วยรอท่าสดับวิสัชนา จึ่งหวนคิดจำต้องแกว่งหน้าตาปิดประตูอีกหนฉบับนรชนมีอยู่ความเอื้อเฟื้อนักกีฬา นึกดูแหวไหนๆ ข้อความสำคัญก็มาสู่ลุสถานภาพนี้หลังจากนั้น “แต่ก็หนอ อย่าโทษโพยขนิษฐาธีข้าวของเครื่องใช้ สติ๊กเกอร์แต่งรถกระบะ ข้าแบบหนึ่งเดียวล่วงเลย มองดูดำเนินรูปการณ์จากนั้น กนิษฐาธีเครื่องใช้ข้าก็อาจปะทะสาหัสมิปราชัยเกียดกันหรอก” วิยะดาผดุงชนิดจริงจังอีกด้วย ก่อนจักเอี้ยวคลาไคลทัศนามิตรสหายเพราะด้วยแววตาติ “นกกระแบะมือ เธอก็เบาไม้เบามือหน่อยตกลง จะแสดงกนิษฐาธีแยกออกสิ้นใจเลยหรือไร” ริมฝีปากอิ่มหนำสำราญจัดหามาตัวแย้มทับถมอีกรอบ ที่แล้วเร่งรีบแก้ตัวทำนองเสียงสะดุด “ฉะมันสมองมันสมอง.บริโภคมันสมองมันสมอง.วาก.มันสมองมันสมองหนอ” “เอาเถิด ตักเตือนแต่ว่าเมื่อคืนนี้วิวาทถ้อยคำอะไรขัดขวาง ดำรงอยู่รบสู้รบขนันต้องตา ลำแขนขนิษฐธีถึงแม้ว่าได้ยังมีชีวิตอยู่ริ้วความจุตรงนี้” วิยะดาเอ่ยรุ่งโรจน์พร้อมกันไปทรรศนะพาหาธีธัชทำนองเป็นห่วงศรุตวิธีนั้นธีธัชกับนลินก็แยกปากหวอโดยทันทีทันใด พูดไม่ถูกตกตะลึงชะงักงันหมดทางตาเบิกโพลง กับหลังจากนั้นกลุ่มด้านหลังก็ซักไซ้ไล่เลียงรุ่งโรจน์ สีหน้าท่าทางยังมิวากไม่ได้สติงัน สติ๊กเกอร์แต่งรถ “ความน่ากลัวบริเวณศักดิ์เว้าอาบันขนัน ประสงค์มันสมองมันสมองมันสมองคือเถียงกีดกันเมามันใช่มั้ย”
เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่ สติ๊กเกอร์แต่งรถ 12-5
“ขอบใจนะ ว่างๆ ก็มาฝึกทำขนมด้วยกันอีกก็ได้นะ” นลินยิ้มอีกครั้งพลางเอ่ยชวน อีกฝ่ายจึงยิ้มปลื้ม ปากกว้างฉีกแทบถึงใบหูจากนั้นนลินก็เข้าไปในครัว เตรียมอาหารเช้าให้บิดาอย่างตั้งอกตั้งใจ เพื่อชดเชยที่เมื่อคืนนี้ทำให้ท่านเสียใจ ถึงจะไม่ตั้งใจก็เถอะ และแม้รู้ดีว่าท่านไม่ถือสา แต่ก็ยังรู้สึกแย่อยู่ดี ธีธัชเริ่มรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นช้าๆ และมองข้างกายเป็นอันดับแรก หลงเหลือแค่ความว่างเปล่ากับร่องรอยยับยู่ยี่ของที่นอน จึงค่อยๆ หยัดตัวขึ้นนั่งพลางเสยผมลวกๆ ตอนนี้ตื่นเต็มตาแล้ว ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนจึงแจ่มชัดอีกครั้ง เขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ควรจะรับผิดชอบอย่างไร และที่สำคัญ หล่อนจะโกรธเขาหรือเปล่านะ จะขอโทษอย่างไรดี ควรจะพูดอะไรเป็นอย่างแรกตอนเจอหน้ากัน สติ๊กเกอร์แต่งรถลายการ์ตูน ความคิดเริ่มสับสน ว้าวุ่น กังวลใจ คิดวนไปเวียนมาเหมือนพายเรือในอ่าง สุดท้ายก็ตัดใจลุกขึ้นเพื่อออกไปอาบน้ำ ขณะเปิดประตูออกไปด้วยหัวใจเต้นรัว ก็เห็นหล่อนนั่งอยู่กับบิดาที่โต๊ะอาหาร เลยทำหน้าไม่ถูก ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าห้อง “นายรีบไปอาบน้ำสิ แล้วมากินมื้อเช้าซะ ฉันเตรียมไว้ให้แล้ว จะได้รีบไปทำงานกัน” นลินพูดขึ้นด้วยท่าทางปกติธรรมดาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น “นั่นสิ ธี จะได้มากินข้าวด้วยกัน” นายสุชาติสำทับขึ้น หน้าตาแจ่มใส “ครับ” หนุ่มน้อยตอบรับ ก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป หลังจากนั้นก็มานั่งกินข้าวด้วยท่าทางสำรวมกว่าปกติ แอบมองหญิงสาวหลายครั้ง แต่หล่อนคงไม่ทันสังเกต เพราะความสนใจอยู่ที่บิดาเพียงผู้เดียว จึงนึกน้อยใจขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล หล่อนทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สากับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ ผิดกับเขาที่ร้อนรนกระวนกระวายใจจนแทบบ้าก่อนออกจากบ้าน จู่ๆ นลินก็ยื่นยาหลอดเล็กๆ สติ๊กเกอร์แต่งรถมอเตอร์ไซค์ ให้ ธีธัชเลิกคิ้วแทนคำถาม “ทาแผลที่แขนนายไง มันจะได้หายเร็วขึ้น” หล่อนพูดนิ่งๆ สีหน้าเรียบเฉย “ขอบคุณ” ธีธัชเอ่ยขอบคุณ ดีใจที่อย่างน้อยหล่อนยังคงห่วงใย ระหว่างทางเดินไปป้ายรถเมล์ ต่างนิ่งเงียบ ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงเรื่องเมื่อคืน จนกระทั่งขึ้นรถเมล์อันแสนเบียดเสียด สองหนุ่มสาวต้องยืนเบียดแนบชิดกันเหมือนทุกวัน แต่วันนี้มันอึดอัดและร้อนวูบวาบชอบกล ใบหน้าทั้งสองแดงระเรื่อ ต่างไม่กล้าสบตากัน เสมองไปคนละทาง เพราะร่างกายเกิดปฏิกิริยาตอบสนองต่อการเสียดสีจากเนื้อตัวของอีกฝ่าย หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ต่างก็โล่งอก เมื่อรถเมล์โล่งขึ้น สติ๊กเกอร์แต่งรถ ผู้คนทยอยลงจนแทบไม่เหลือคนยืน สักพักก็ได้ที่นั่งคู่กัน
เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่ สติ๊กเกอร์แต่งรถ 12-3
ธีธัชยกแขนข้างหนึ่งขึ้นหนุนใต้ศีรษะ เหลียวมองสาวข้างกาย หล่อนกำลังนอนตะแคงหันหลังให้ จึงเห็นเพียงผมยาวสยายแผ่เต็มหมอนหนุน และต่างนอนนิ่งฟังเสียงลมหายใจของกันและกัน ขณะนั้นนลินแอบหวังอย่างใจจดใจจ่อว่าเขาจะเอื้อมแขนมาโอบกอด คืนนี้หล่อนต้องการอ้อมกอดของใครสักคน ไม่อยากคิดและรับรู้ถึงความไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง หรือความผิดพลาดใดๆ แค่อยากได้ไออุ่นจากคนข้างกาย เพราะหัวใจมันหนาวเหน็บ อ้างว้าง อยากขอแค่ที่พักใจสักไม่กี่ชั่วโมง แล้วพรุ่งนี้ก็จะกลับมาเป็นนลินเข้มแข็งคนเดิม ส่วนเรื่องในคืนนี้ก็คิดเสียว่าเป็นแค่ความฝัน แต่หลังจากรอแล้วรอเล่า เขาก็ไม่มีทีท่าจะทำอย่างที่หล่อนแอบหวัง ยังนอนนิ่งสนิท สักพักก็ได้ยินเสียงจังหวะหายใจดังสม่ำเสมอแบบลายข้างรถพร้อมใช้งาน จึงแอบผิดหวังอยู่ในใจ นั่นสินะ ทั้งสองเป็นเพื่อนกัน ไม่ใช่คู่รักนี่นา หนำซ้ำเขายังเด็กกว่าตั้งสี่ปี แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบของคนสองคน ไม่มีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น แต่น่าแปลกที่กลับไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น คงเพราะหล่อนเลือกเอง และพร้อมจะยอมรับผลของมัน จะโทษใครก็ไม่ได้ด้วย คงต้องโทษตัวเอง นลินพลิกตัวเพื่อหันนอนตะแคงอีกข้าง เห็นเสี้ยวหน้าคมสันในความมืด แม้จะเห็นเป็นเงารางๆ แต่ก็สังเกตเห็นจมูกโด่งเป็นสัน งดงามราวรูปปั้นเทพบุตรกรีกโบราณ เขาหลับสนิทแล้ว เพราะอกกว้างขยับขึ้นลงช้าๆ เป็นจังหวะ จึงจับผ้าห่มเลื่อนขึ้นคลุมให้ และสักพักก็เคลิ้มหลับ จนมารู้สึกตัวอีกทีราวเช้ามืด นลินลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ รินรดต้นคอ เนื้อกายอุ่นและแข็งแกร่งแนบชิดแผ่นหลังหล่อน เมื่อหลุบตามองก็เห็นแขนล่ำสันโอบกอดหล่อนไว้ สีผิวตัดกันอย่างชัดเจน ให้ความรู้สึกแปลกตาสำหรับนลิน วูบนั้นหล่อนรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด เป็นครั้งแรกที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอ้อมกอดของใครสักคน หลังจากวันที่มารดาจากไปก็ไม่เคยมีใครนอนกอดหล่อนอีกเลย สติ๊กเกอร์แต่งรถมอเตอร์ไซด์ เพราะบิดาต้องทำงานหนักมากเพื่อเลี้ยงดูลูกทั้งสองคน กลับจากทำงานก็ต้องมาดูแลลูกสาวคนเล็กที่ยังแบเบาะ ลูกสาววัยห้าขวบจึงต้องฝึกนอนบนฟูกเล็กๆ เพียงลำพังและชินไปในที่สุด หล่อนมองออกไปนอกหน้าต่าง ฟ้าเริ่มสางแล้ว คงต้องรีบลุกออกไปก่อนที่บิดาจะตื่นลงมาเห็น จึงค่อยๆ ยกแขนล่ำสันออกจากตัวอย่างเบามือที่สุด กลั้นลมหายใจ ค่อยๆ เลื่อนตัวออกจากแผงอกอบอุ่น หันมองธีธัช แล้วก้ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกที่เขายังหลับสนิท เหลียวมองหาเสื้อผ้าตัวเอง สติ๊กเกอร์แต่งรถ ก็เห็นว่าวางพาดอยู่บนโต๊ะรวมกับเสื้อผ้าของเขา พวงแก้มแดงระเรื่อเมื่อเห็นชุดชั้นในสีหวานของตัวเองวางทับอยู่ด้านบน...เขาคงเก็บมาวางรวมไว้ด้วยกัน
ข้อความชอบพอต้นฉบับง่ายๆผัก สติ๊กเกอร์แต่งรถ โหมตอนทำเนียบ 12-1
นลินเงยพักตร์ขึ้นเอื่อย ยถากรรมด้านหน้าของใช้ทั่วฝาแฝดคงอยู่ไกลลิบกันไม่แม้ว่าคืบ แตกต่างรับทราบจัดหามาตราบเท่าปราณอุ่นๆ ในที่ไหลรดป้อง จักขุคู่ยี่ไปด้วยกันอึ้ง ระลอกคลื่นอารมณ์เป็นเอามากโปร่งบางทำนองภายในในเวลานั้นเปรียบเสมือนเหมือนกับคลื่นแม่เหล็กแหล่งกอบด้วยฤทธิ์เดชเป็นอันมากเยอะแยะข้างในงานติดใจสละฝ่ายสองด้านลงมาประจบบรรจบขัดขวางมันสมองมันสมอง.ในที่รัตติกาลอันร้าวราน ขนมจากการแจะริมฝีปากแยกแค่แผ่วเบาแปรดำรงฐานะจูบชิ้นสาหัส ดุเดือด ด้วยกันร้อนแรง ตราบเท่าพ่างจะกลมกลืนใช้สอยซึ่งกันและกัน หลอมละลายทดกลมกลืน เพียงดังแตกต่างประสงค์ทดแทนโปร่งใสของโปร่งบางทำนองตำแหน่งขาดวิ่นลดเคลื่อนในค่ำนี้หญิงรุ่นเปล่ารู้ตัวลุทุกสิ่งสิ่งใดๆ รอบร่างกาย เลือนเดินสำหรับเหมือนว่าจ้างรวมหมดคู่แฝดอีกต่างหากดำรงตำแหน่งคงไว้เขตโต๊ะกินข้าวในครัว เฉพาะแม่นางเปล่าตั้งอกตั้งใจดอก เหตุว่ากำลังวังชาตั้งอกตั้งใจเท่าแตะจากรสชาติจูบข้าวของเครื่องใช้หนุ่มน้อย ซึ่งปรารถนาฉบับเหี้ยมโหดเปล่าแตกต่างยับยั้ง หมดหนทางพ่างจะหายใจเปล่าทัน พร้อมกับในควรจะพันลึกพันลือก็ตกว่าสติ๊กเกอร์แต่งรถลายการ์ตูน จัดเจ้าหล่อนกดกลีบดอกปากอ่อนนุ่มและริมฝีปากสิ่งภูหมวดดุดันโขเท่าใด เรื่องร้าวรานระทมใจภายในหฤทัยก็โหรงเหรงลงโขเฉพาะ วินาทีนั้นหล่อนกลัวเหลือแสนตำหนิติเตียนการจูบจะทุเลากรณีเหี้ยมโหดยอม ฟังเพราะโน่นหมายความว่าข้อความปวดร้าวใดๆ ก่อนหน้าจะสัมผัสถาโถมกลับด้านมาริอีกเวลา กับคืนตรงนี้หล่อนไม่อาจคอนยอมรับมันแข็งฮวบอีกถัดจากนั้น ในช่วงภายในที่คดีวาบหวามยวบกับรุนแรง ธีธัชพอทราบจัดหามาเรื่อๆ เหมาทั่วคู่แฝดกำลังวังชาดำรงตำแหน่งอาศัยที่ครัว พร้อมกับศักดิ์บำเพ็ญโปร่งแสงเครื่องเคราพื้นที่มิพอสมควร อย่างเดียวสัญชาตญาณพลิกผันร้องขออีกทำนอง สกนธ์หนุ่มแน่นเริ่มต้นจุดชาตปฏิกิริยาตามธรรมชาติ จนกระทั่งดังเปล่าเป็นได้คุมสายตัวตรงนี้ไว้ได้รับทั้งๆ ณขมองตรัสส่งเสียเก็บ อย่างไรก็ตามก็ยังโลมไล้จุ๊บเจ้าหล่อนเฉกเช่นคนบ้าบ้าคลั่ง จิบลองกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมตลอดรูข้อคดีหวานฉ่ำข้าวของเครื่องใช้รีปากอยู่ท้อง ‘นายจำเป็นเว้น!’ เสียงร้องปรามผละปมจิตเหมือนรุ่งอีกคราว หลังจากนั้นในที่ระยะเวลาระยะเวลากะลูกเต้ากะหรอกตรงนั้นเอง ธีธัชก็เข้าเล่มเรี่ยวแรงพร้อมกับกำลังใจทุกคนช้าๆ เรียกคืนริมฝีปากออกลูกทอดน่อง ระบิลยากเย็น ก็เพราะว่าอีกทิศเปล่าปันออกข้อคดีร่วมกันแม้แต่เล็กสติ๊กเกอร์แต่งรถมอเตอร์ไซค์ ขาเล็กๆ ขยุ้มเสื้อยืดบากหน้าสรรพสิ่งสิงขรเก็บหนั่น ดอมหวนกลับเข็ดขยาดพนมจักเปิดลดไปในเวลานั้นดวงแก้วกล้อพุฒส่องแสงถึงกรณีแปลกใจไม่แน่นอนจิตใจรักใคร่ กลุ่มปรางเกลี้ยงเกลาแดงก่ำ หายใจกระหืดกระหอบถี่ กลีบดอกโอษฐ์แดนปีกไก่ระบมพร้อมด้วยอืดเจ่อสะท้านกระซิกกระซี้นั้นโหนกมาถึงมาหาด้วยว่าไขว่คว้าหาเชยชมเร่าร้อนแหล่งหดหายจากจำพวกเคลิ้ม ‘ตอนนี้สกุณาโหรงเหรงเปล่าได้มาเป็นตัวของตัวเอง’ ธีธัชบอกพร้อมทั้งตนเองเวลาลังเลใจพักตร์เพริศ เวียรประดิษฐานสติสัมปชัญญะ ดวงใจอีกทั้งเต้นระรัว จังหวะหายใจเป็นบ้าเป็นหลังมิพ่ายเจ้าหล่อน ทั้งๆ ที่โหยจักเอาอก
เอาใจแม่นาง หรือไม่เอื้อนอีกดังดุเอาอกเอาใจตัวเอง เช่นเดียวกันการค้อมริมฝีปากประกับแอบชิดพุ่ง
อิ่มถิ่นที่เชิญชวนประเภทน่ามอง แต่กระนั้นภูอั้นใจคอตัวเองวางเทียมถึง เพรงยกสองมือขึ้นหนุนจุดพักตร์เรียบร้อย แนบชิดนลาฎตนเองและหน้าผากเธอ รู้หาได้จดหญิบมือเล็กๆ ถิ่นอีกทั้งขยุ้มเสื้อยืดสิ่งของนกเขาเก็บคับคั่ง สติ๊กเกอร์แต่งรถ ประดุจนลินแรงข่มใจยับยั้งจิตใจเร่าร้อนเก็บ รณหายใจกระหืดกระหอบสั่นข้าวของทั่วทวิเข้ากันรุ่งโรจน์หวั่นไหวพำนักแห่งหูของภูเขา
เอาใจแม่นาง หรือไม่เอื้อนอีกดังดุเอาอกเอาใจตัวเอง เช่นเดียวกันการค้อมริมฝีปากประกับแอบชิดพุ่ง
อิ่มถิ่นที่เชิญชวนประเภทน่ามอง แต่กระนั้นภูอั้นใจคอตัวเองวางเทียมถึง เพรงยกสองมือขึ้นหนุนจุดพักตร์เรียบร้อย แนบชิดนลาฎตนเองและหน้าผากเธอ รู้หาได้จดหญิบมือเล็กๆ ถิ่นอีกทั้งขยุ้มเสื้อยืดสิ่งของนกเขาเก็บคับคั่ง สติ๊กเกอร์แต่งรถ ประดุจนลินแรงข่มใจยับยั้งจิตใจเร่าร้อนเก็บ รณหายใจกระหืดกระหอบสั่นข้าวของทั่วทวิเข้ากันรุ่งโรจน์หวั่นไหวพำนักแห่งหูของภูเขา
เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่ สติ๊กเกอร์แต่งรถ 11-10
ยิ่งคิดถึงตรงนี้ ความรู้สึกก็สั่นไหว จึงกัดริมฝีปากล่างแน่น ขอบตาเริ่มร้อนผ่าว จึงแหงนมองเพดาน เพราะเกรงน้ำตาจะไหลริน หล่อนไม่เคยร้องไห้มานานแล้ว หลังจากร้องไห้ให้กับการจากไปของมารดาอยู่ทุกคืน กินเวลาหลายปี จนวันหนึ่งก็หยุดร้องไห้ไปดื้อๆ บอกกับตัวเองว่าน้ำตาเป็นเรื่องของคนโง่และอ่อนแอ เพราะร้องไห้ให้น้ำตาไหลเป็นสายเลือด แม่ใจร้ายพรรค์นั้นก็ไม่มีวันกลับมา ทว่าแท้จริงแล้ว...หล่อนก็ใจร้ายไม่ต่างกับมารดา ทำให้บิดาต้องเสียใจ ทั้งๆ ที่ท่านรักและห่วงใยลูกสาวทั้งสองตลอดมา นลินคิดอย่างสมเพชตัวเอง ไม่ว่าบิดา ป้าเพ็ญ เพื่อนบ้านเก่าแก่ หรือใครๆ ที่เคยรู้จักมารดาหล่อน ล้วนแล้วแต่บอกว่า นอกจากหล่อนจะมีรูปร่างหน้าตา บุคลิกลักษณะ น้ำเสียง วิธีการพูด ท่า
เดินเหมือนมารดาแล้ว นิสัยใจคอยังเหมือนท่านไม่มีผิด ใช่ สติ๊กเกอร์แต่งรถวีโก้ หล่อนคงได้เลือดแม่มาอย่างสมบูรณ์แบบ และคงได้เลือดความใจร้ายมาด้วย เลือดของคนไม่มีหัวใจ เห็นความสำคัญของเงินทอง ความสุขสบาย มากกว่าสิ่งอื่นใดบนโลกใบนี้ สักพักหนึ่งนลินก็ดึงเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าวออกมานั่ง พอชันเข่าขึ้น ก็เห็นแผลถลอกเลือดซิบๆ ตรงหัวเข่าทั้งสองข้าง ใช้นิ้วแตะเบาๆ เผลอนึกถึงภาพตอนอยู่หน้าโรงแรมขณะปะทะคารมกับคนปลิ้นปล้อนและสะดุดบันไดจนล้มคะมำ หล่อนพยายามสะบัดภาพเลวร้ายพวกนี้ออกไป และเหลือบมองสร้อยข้อมือที่ก้องกานต์ซื้อให้ ‘เมื่อกี้ทำไมไม่ปาคืนคนเลวๆ พรรค์นั้นไปนะ’ ว่าแล้วก็แกะสร้อยข้อมือออกอย่างรวดเร็ว โยนมันลงบนโต๊ะอาหารอย่างไม่ไยดี ไม่อยากแม้แต่จะแตะต้องสร้อยเส้นนี้อีกต่อไป และนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นอยู่นานเป็นชั่วโมง จนกระทั่งได้ยินเสียงประตูหน้าบ้าน แม้ทั้งบ้านจะมืดสลัวเพราะเปิดไฟในครัวเพียงดวงเดียว แต่ก็จำร่างสูงใหญ่คุ้นตาได้ในทันที ธีธัชขมวดคิ้ว แปลกใจที่ไฟในครัวเปิดอยู่ และเห็นเจ้าของบ้านนั่งชันเข่า หน้าตาเซื่องซึมอยู่ที่โต๊ะกินข้าว และยังอยู่ในชุดทำงานสติ๊กเกอร์แต่งรถลายการ์ตูน “ทำไมยังไม่นอนอีก นกน้อย แล้วมานั่งทำอะไรตรงนี้ นี่เที่ยงคืนกว่าแล้วนะ” “เบื่อๆ น่ะ นอนไม่หลับ แล้วนายล่ะ ทำไมกลับดึกจัง ตอนแรกฉันนึกว่านายหลับอยู่ในห้องซะอีก ไปไหนมา” หล่อนพูดเสียงเนือยๆ หลังจากได้นั่งเงียบๆ คนเดียวอยู่หลายชั่วโมง คลื่นพายุอารมณ์ที่กระจัดกระจายอย่างไร้ทิศทางก่อนหน้านี้ก็ค่อยๆ นิ่งลง แต่ไม่ได้จางหายไป เพียงแต่ตกตะกอนทับถมอยู่เบื้องล่างอย่างหนาแน่น หนุ่มน้อยวางเป้ลงบนโต๊ะด้วยท่าทางเหนื่อยล้า สติ๊กเกอร์แต่งรถ แล้วนั่งลงข้างๆ หล่อน ยกสองมือขึ้นถูใบหน้า ตามด้วยเสียงถอนใจเบาๆ
เดินเหมือนมารดาแล้ว นิสัยใจคอยังเหมือนท่านไม่มีผิด ใช่ สติ๊กเกอร์แต่งรถวีโก้ หล่อนคงได้เลือดแม่มาอย่างสมบูรณ์แบบ และคงได้เลือดความใจร้ายมาด้วย เลือดของคนไม่มีหัวใจ เห็นความสำคัญของเงินทอง ความสุขสบาย มากกว่าสิ่งอื่นใดบนโลกใบนี้ สักพักหนึ่งนลินก็ดึงเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าวออกมานั่ง พอชันเข่าขึ้น ก็เห็นแผลถลอกเลือดซิบๆ ตรงหัวเข่าทั้งสองข้าง ใช้นิ้วแตะเบาๆ เผลอนึกถึงภาพตอนอยู่หน้าโรงแรมขณะปะทะคารมกับคนปลิ้นปล้อนและสะดุดบันไดจนล้มคะมำ หล่อนพยายามสะบัดภาพเลวร้ายพวกนี้ออกไป และเหลือบมองสร้อยข้อมือที่ก้องกานต์ซื้อให้ ‘เมื่อกี้ทำไมไม่ปาคืนคนเลวๆ พรรค์นั้นไปนะ’ ว่าแล้วก็แกะสร้อยข้อมือออกอย่างรวดเร็ว โยนมันลงบนโต๊ะอาหารอย่างไม่ไยดี ไม่อยากแม้แต่จะแตะต้องสร้อยเส้นนี้อีกต่อไป และนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นอยู่นานเป็นชั่วโมง จนกระทั่งได้ยินเสียงประตูหน้าบ้าน แม้ทั้งบ้านจะมืดสลัวเพราะเปิดไฟในครัวเพียงดวงเดียว แต่ก็จำร่างสูงใหญ่คุ้นตาได้ในทันที ธีธัชขมวดคิ้ว แปลกใจที่ไฟในครัวเปิดอยู่ และเห็นเจ้าของบ้านนั่งชันเข่า หน้าตาเซื่องซึมอยู่ที่โต๊ะกินข้าว และยังอยู่ในชุดทำงานสติ๊กเกอร์แต่งรถลายการ์ตูน “ทำไมยังไม่นอนอีก นกน้อย แล้วมานั่งทำอะไรตรงนี้ นี่เที่ยงคืนกว่าแล้วนะ” “เบื่อๆ น่ะ นอนไม่หลับ แล้วนายล่ะ ทำไมกลับดึกจัง ตอนแรกฉันนึกว่านายหลับอยู่ในห้องซะอีก ไปไหนมา” หล่อนพูดเสียงเนือยๆ หลังจากได้นั่งเงียบๆ คนเดียวอยู่หลายชั่วโมง คลื่นพายุอารมณ์ที่กระจัดกระจายอย่างไร้ทิศทางก่อนหน้านี้ก็ค่อยๆ นิ่งลง แต่ไม่ได้จางหายไป เพียงแต่ตกตะกอนทับถมอยู่เบื้องล่างอย่างหนาแน่น หนุ่มน้อยวางเป้ลงบนโต๊ะด้วยท่าทางเหนื่อยล้า สติ๊กเกอร์แต่งรถ แล้วนั่งลงข้างๆ หล่อน ยกสองมือขึ้นถูใบหน้า ตามด้วยเสียงถอนใจเบาๆ
กงการรักใคร่ชอบพอระบิหมูๆขมบทถิ่นที่ สติ๊กเกอร์แต่งรถ 11-5
‘คุณกำทวนมีคู่หมั้นคู่หมายจบ เป็นลูกหญิงคุณๆนักการทูตกระไรนี่เอง ตราบปลายพรรษาฮันนี่อีกต่างหากจรการงานหมั้นหมายเลย หนำวางทับกันอีกต่างหากบอกกล่าวว่าจ้างอีกไม่กี่โสมก็จักตบแต่งกีดกันจากนั้น’ ถ้อยคำสรรพสิ่งวิยะดาอึงก้องขึ้นไปในโสตประสาทฝ่ายแจ่มกระจ่าง เลี่ยนหมายความว่าข้อเท็จจริงเหรอนี่ นลินชาไปรวมหมดองค์ สนั่นกานต์ย่องขัดเคืองเรี่ยรายแถวคู่หมั้นคู่หมายหนุ่มโฆษิตโผงผางคลอดเคลื่อนที่รูปแบบตรงนั้น ด้วยว่าอีกต่างหากมิตั้งใจส่งเสียไก่ชาคริตขณะนี้ อุตส่าห์ประดังหนักหน่วงร่างกายพร้อมกับพละกำลังทรัพย์สินจากฝาแฝดดัดปลักกว่า ยังมิจัดหามาลองลิ้มกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมพระมารดาผู้หญิงมานพนี้ล่วงพ้น คล้ายตรงนี้ประกอบด้วยมุ่งมาดชวด แต่ทว่าก็เปล่าแน่เทียว อนงค์ระยะเวลาตรงนี้คงจะไม่เอาเรื่องก็ได้ โปร่งใสสัตว์สองเท้าคงมองสุภาพอ่อนโยน แต่ทว่ารักสนุก เปล่าการตั้งกฎเกณฑ์ผูก ก็เข้าทิศาภูเปรี๊ยะ ไม่ใช่หรือแม้เรียกร้องได้เครื่องใช้เงินตราหมายความว่างานชดเชย ชายรวยๆ พวกภูก็กับจะมอบให้กำนัล สติ๊กเกอร์แต่งรถ honda city เด่นหญิงสาวสวยๆ รูปร่างดีๆ ดั่งนลิน พนมพรึบจักทุ่มรวมหมดที่พัก รถ พร้อมทั้งทรัพย์สิน เผื่อหล่อนจะยอมให้ ฟังเพราะย้ำเตือนซื่อ แหวดีความซื่อสิ่งของเจ้าหล่อน ถ้าว่า ที่ เวลานี้ จำเป็นต้องเอาชีวิตรอดทิ้งสถานการณ์นี้เก่า จึ่งกระทบศอกคู่รักเพื่อให้ย่างก้าวทิ้งออกลูกเดินทาง เฉพาะย่างก้าวอยู่จัดหามามิกี่สาวเท้า เสียงร้องอื้นก็เซ็งแซ่ขึ้นไปอีก “เดี๋ยวจ้ะ ความเกื้อกูลโฆษะ หัวมันหมายความติเตียนอย่างไร” นลินถามรุ่งโรจน์จำพวกดื้อ ทราบรวมหมดรู้สึกตักเตือนทุกสิ่งทุกอย่างสุวิมลโทนโท่ อีกทั้งจะขัดสอบสวนสิ่งไรปัญญาอ่อนคลอดจากไปอีก ก้องกานต์ส่งน้ำเสียงไม่พอใจแห่งลำคอเบา ด้วยกันซบเซา ‘ทำไมมาตุคามสัตว์ตรงนี้บรรลุเซอะเหล่าตรงนี้นะ ประกอบองค์น่าจะรำคาญ พร้อมกับมิพิทูรนำมากๆ จริงๆ ควรรู้อยู่ดุไหนหมายความว่าสิ่งไร หยิบยกวางสนทนาสกัดกั้นนอกรอบก็ได้ อีกทั้งจักดื้อทรงไว้ได้’ “หมายความว่าจ้างไงสิ่งไรขอรับกระผม เอ็งนลิน” ครั้งนี้เสียงประกอบด้วยกังวานห่างเหเช่นมิปิดความ แววตาระคนข้อคดีแข็งกระด้างเฉกสั่งสอนสึงภายในครา “ก็แผ่นดินความเกื้อกูลกระทำการแบบอย่างตรงนี้สนุกหมายความว่าจ้างยังไง” นลินถามไถ่จำพวกความโกรธและช้ำใจ เจ้าหล่อนแตะต้องชายสิ่งมีชีวิตตรงนี้โกง พร้อมทั้งก็ไม่ได้มารู้สึกกระดากกับหน่วยก้านสั่งสอนไปที่ทีตรงนั้น “พี่ก้องจ๋า” นีน่าอื้นหวั่นไหวกานต์รณเน้นคล้ายจะกล่าวเตือนกลายๆ ทั้งๆ ที่ภูจักติดใจนลินตึดตื๋อแท้จริง ทว่าแม้แตะต้องคัดเลือก แบบลายข้างรถพร้อมใช้งาน ก็คงจะต้องคัดเลือกคู่หมายเหน้า ไพเราะนลินเปรียบเสมือนราวกับบุษบาแคมครรลองพื้นดินมิมีราคาค่างวดฤๅ มีหนาแน่นดาดาษทั่วถึงอุทรสาย หากเปรียบเหมือนกับข้าวนีน่าจะก็สามารถเอิ้นได้รับตักเตือนแตกต่างกักคุมเหมือนฟากฟ้ากับข้าวแผ่นดิน นีน่าเสมอเหมือนบุปผชาติสนนราคาแพง ได้มารองรับงานถนอมกล่อมเกลี้ยงกำกับชนิดเป็นประโยชน์ ด้วยว่าเอามาทิ่มวางแห่งแจกันมูลค่าแพงมากข้าวของเครื่องใช้ไศล “ผมประทานโทษหนอฮะ ความเกื้อกูลนลิน ฉันจำต้องลุกลนเดินทางเข้ากับคู่หมั้นคู่หมาย คาดตักเตือนมึงคงถึงบางอ้อ” “ฉันมิหยั่งถึง” เจ้าหล่อนรั้นเพื่อความคับแค้นใจ หวั่นไหวกานต์เหียนจรมองตานีควรจะ พบกระแสความขุ่นเคืองกับคามไม่ถูกใจ เธอซ่อนริมฝีปากเนืองแน่น หน้าเริ่มทำไม่ใส่ใจ ท่าฟ้องคดีตักเตือนกำลังกายโมโหแจ๋ พร้อมด้วยนั่นเป็นเจ้าหล่อนศักยเง้างอนเสด็จคือจันทรา จนกระทั่งภูเขาศักยจักกระแทกคนชรารวมหมดญิบแนวร่วมยินยอมเฉ่งตรง พร้อมกับเพียงสภาวะการตอนนี้ ภูก็จำเป็นจะต้องตระเตรียมแลหาคำกล่าวอ้างงามๆ เลี้ยงดูคู่หมั้นคู่หมายสาวแล้วไป แล้วก็อีกทั้งไม่อยากหาเหตุบรรจุร่างเป็นบ้ากระทั่งนี้ ผ่านพ้นตกลงใจหันเหดำเนินบอกเล่าเพื่อนชายดึงถวายยืนรออยู่สักครู่หนึ่ง พร้อมกับย่างเท้าเข้าไปเสด็จพระราชดำเนินหานลิน สติ๊กเกอร์แต่งรถ อื้นรุ่งโรจน์เมื่ออุปการะศรุตกีดกันเพียงหญิบสมาชิกเพื่อสีหน้าท่าทางอ่อนใจ
เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่ สติ๊กเกอร์แต่งรถ 11-4
แววตาของก้องกานต์ยามมองสาวน้อยฉายชัดถึงความรักใคร่ และท่าทางการประคองตระกองกอดนั้นก็ช่างดูทะนุถนอมราวกับเธอคนนั้นเป็นเจ้าหญิง เป็นคนพิเศษอย่างมาก อย่างที่นลินแน่ใจว่าไม่เคยได้รับแววตากับกิริยาเช่นนี้จากเขาแน่นอน วินาทีนั้นหญิงสาวตัดสินใจเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าคนทั้งคู่ ใบหน้าคมสันบ่งบอกความตกใจเมื่อเห็นนลิน แต่เพียงเสี้ยววินาทีก็ควบคุมอาการได้ ส่วนสาวน้อยข้างกายมีสีหน้างงงันเล็กน้อย “สวัสดีครับ คุณนลิน” เขาทักทายก่อนอย่างสุภาพราวกับพบคนรู้จักธรรมดาคนหนึ่ง และเรียกชื่อจริงอย่างห่างเหิน “ใครคะ พี่ก้อง” สาวน้อยหันมาถามอย่างสงสัย มองผู้หญิงตรงหน้าปราดเดียวตั้งแต่ศีรษะจดเท้า สังเกตสังกาตามประสาผู้หญิง คิดว่าเจ้าหล่อนคนนี้ก็หน้าตาสะสวยใช้ได้ สติ๊กเกอร์แต่งรถksrแต่ชุดทำงานที่สวมใส่นั้นดูก็รู้ว่าเป็นของถูก สภาพกลางเก่ากลางใหม่ ซื้อแบบสำเร็จรูป กระเป๋ากับรองเท้าก็คงซื้อหามาจากตลาดนัด แต่ที่สะดุดคือแววตาแปลกๆ ยามจ้องมองมา สัญชาตญาณร้องบอกว่าคงมีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงเหลียวมองหนุ่มคนรัก ก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาไม่มีอาการผิดปกติใดๆ “คุณนลินเป็นพนักงานขายรถจ้ะ นีน่า คือพี่ก้องเพิ่งสั่งซื้อรถจากคุณนลินไปเมื่อไม่นานมานี้ เอ่อ...คุณนลินคงมาทำธุระที่นี่ ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ” ก้องกานต์ตัดบทเพื่อปลีกตัวหนีจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัด ไม่คิดว่าจะมาพบนลินที่นี่ ส่วนเขามาที่นี่เพื่อดูสถานที่เพื่อใช้จัดงานแต่งงาน และคู่หมั้นของเขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ “ไหนคุณบอกว่ามีนัดทานข้าวกับที่บ้านไงคะ” นลินถามโพล่งออกไปอย่างไม่รู้ตัว สาวน้อยขมวดคิ้วทันทีสติ๊กเกอร์แต่งรถมอเตอร์ไซค์ หันขวับไปทางก้องกานต์ ก็เห็นเขามีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจอย่างเห็นได้ชัด “มีอะไรหรือเปล่าคะ พี่ก้อง” “ไม่มีอะไรจ้ะ นีน่า เดี๋ยวพี่ก้องอธิบายให้ฟัง เอ่อ...คุณนลิน ผมขอตัวก่อนนะครับ ผมรีบจริงๆ” เขาพูดเสียงอ่อนกับแฟนสาว แต่ใช้น้ำเสียงกึ่งห้วนกับนลิน “นั่นสิคะ พี่ก้อง รีบไปเถอะ เราสายแล้วนะ เดี๋ยวทางโรงแรมนึกว่าเราไม่มา ยกห้องจัดเลี้ยงให้คนอื่นไป เราหาสถานที่จัดงานแต่งงานไม่ทันแน่ แล้วนีน่าก็ชอบโรงแรมนี้ด้วย คุณหญิงแม่ก็ชอบ” นีน่าออดอ้อน จงใจเปรยเรื่องงานแต่งงานให้ผู้หญิงตรงหน้าได้ยิน แม้ไม่แน่ใจว่าสองคนนี้มีอะไรในกอไผ่หรือเปล่า แต่กันไว้ดีกว่าแก้ อย่างน้อยให้ผู้หญิงคนนี้รู้ว่าหล่อนกับก้องกานต์จะแต่งงานกันในอีกไม่ช้า สติ๊กเกอร์แต่งรถ ถ้าคิดจะมาเกาะแกะเขา จะได้เลิกคิดเสีย
เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่ สติ๊กเกอร์แต่งรถ 10-11
“ขอบคุณ นกน้อย” ธีธัชเอ่ยขึ้นจากส่วนลึก “แต่ไม่มีอะไรมากหรอก เพราะสุดท้ายน้องชายของผมก็ต้องแก้ปัญหาเอง คนเราเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้” วินาทีนั้นชายหนุ่มไม่อยากให้หล่อนกังวลใจไปกับเขาด้วย “ก็จริง ฉันเห็นด้วยพันเปอร์เซ็นต์ เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอง นี่เป็นสัจธรรมของชีวิต” ทั้งสองยิ้มให้กัน สติ๊กเกอร์แต่งรถ honda city ก่อนธีธัชจะสะดุดกับสร้อยข้อมือที่หล่อนสวมอยู่ เป็นทองคำขาว แบบเรียบหรู ดูก็รู้ว่าเป็นของมีราคา เพราะลักษณะการออกแบบโดดเด่น จึงเดาว่าน่าจะมาจากร้านเครื่องประดับดังๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เมื่อเช้ายังไม่เห็นหล่อนสวมเครื่องประดับชิ้นนี้ จึงถามขึ้นอย่างสงสัย “วันนี้คุณไปซื้อสร้อยข้อมือมาเหรอ” หญิงสาวก้มลงมองสร้อยข้อมือของตัวเอง หัวใจพลันอิ่มเอิบอย่างบอกไม่ถูก หล่อนปล่อยมือจากมือใหญ่ เพื่อมาลูบคลำสร้อยข้อมือ “ฉันไม่ได้ซื้อเองหรอก คุณก้องซื้อให้เป็นของขวัญ ฉันปฏิเสธไปแล้วนะ เพิ่งจะรู้จักกันไม่นานแบบลายข้างรถพร้อมใช้งาน มาซื้อของให้ก็กลัวจะน่าเกลียดไป แต่เขาก็คะยั้นคะยอเหลือเกิน นายคงไม่ว่าฉันงกนะ” ได้ยินเช่นนั้น ธีธัชรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกในบัดดล คล้ายในห้องนี้มีออกซิเจนน้อยเกินไป เขาแทบอยากลุกพรวดออกไปสูดอากาศจากภายนอก แต่ก็อุตส่าห์กลั้นใจตอบออกไป “ไม่หรอก คนรักกันให้ของกันจะเรียกว่างกได้ยังไง...ว่าแต่คงแพงน่าดู” หล่อนยังจดจ้องสร้อยข้อมือแสนรัก และลูบคลำอย่างหวงแหน “ฉันไม่แน่ใจ แต่ก็คงแพงเอาการเหมือนกัน” ใบหน้าสวยแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มขณะเอ่ย ธีธัชเห็นแวววาดหวังและความฝันทอประกายอยู่ในดวงตากลมโต จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างยินดีไปด้วยกับใบหน้าเปี่ยมสุข แม้วินาทีนั้นความรู้สึกบางอย่างจะคืบคลานแทรกซึมผ่านเข้าไปในหัวใจเพื่อบีบรัดทีละน้อย แต่นั่นคงไม่สลักสำคัญเท่ากับความสุขของผู้หญิงคนนี้ นลินผ่านความยากลำบาก และแบกรับภาระของครอบครัวมาตั้งแต่เด็กจนถึงทุกวันนี้ สิ่งเดียวที่จะนำพาหล่อนให้หลุดพ้นจากความยากลำบากนี้ได้ สติ๊กเกอร์แต่งรถ ก็คือผู้ชายในฝันที่ร่ำรวยสักคน...คนที่พร้อมและเต็มใจจะแบ่งเบาภาระของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง
เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่ สติ๊กเกอร์แต่งรถ10-7
แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าในส่วนลึกเขาประทับใจในความรักและความห่วงใยที่ทั้งสองมีให้กัน ทั้งคู่รู้จักกันมานานหลายปีแล้ว ความรักของคนบ๊องๆ คู่นี้เป็นที่โจษจันจนรู้จักกันทั้งซอย รู้ว่าคู่รักคู่นี้ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ และดีกรีความหวานไม่เคยลดทอนลงแม้แต่น้อย แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน นี่กระมังความรักของคนไม่เต็มบาท ความรักที่ใช้หัวใจล้วนๆ ไม่ต้องใช้สมอง ทั้งสองจึงรักและยอมรับในสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างเป็นได้อย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งคนสมองปกติส่วนใหญ่คงยากจะทำเช่นนี้ได้ หลังจากนั่งรอมาเกือบสองชั่วโมง สุดากับอเนกกลับไปได้สักพักแล้ว ก็ได้ยินเสียงรถยนต์แล่นมาจอดหน้าบ้าน ธีธัชจึงเดินไปชะโงกมองที่หน้าต่าง ก็เห็นเฟอร์รารี่สุดหรูจอดอยู่หน้าบ้าน นลินก้าวลงมาจากรถ โบกมือลาคนขับที่นั่งอยู่ในรถสติ๊กเกอร์แต่งรถ honda city ธีธัชสังเกตว่าผู้ชายคนนี้ไม่เคยลงมาจากรถสักครั้ง จึงไม่เคยเห็นหน้า สักพักรถคันนั้นก็เลี้ยวกลับออกไป ‘นั่งรถซะหรูเลย มิน่า กลับซะดึก หน้าบานเป็นจานดาวเทียม’ ธีธัชแอบค่อนขอดอยู่ในใจอย่างไม่รู้ตัว ขณะเดินกลับไปนั่งบนโซฟาตามเดิม นลินเปิดประตูเข้ามา ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีขณะปิดประตู โดยหารู้ไม่ว่ามีใครบางคนหมั่นไส้เต็มแก่ แต่ไม่กล้าแสดงออก “อ้าว! ธี กินข้าวหรือยัง แล้วพ่อล่ะ เข้านอนแล้วเหรอ” หล่อนทักทายเสียงสดใส ไม่ทันสังเกตว่าธีธัชขยับปากขมุบขมิบคล้ายบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง “อือ...” หนุ่มน้อยตอบสั้นๆ แกล้งทำเป็นชำเลืองมองนาฬิกาบนฝาผนัง ‘เกือบสี่ทุ่ม ไม่กลับซักตีหนึ่งเลยล่ะ’ “ฉันซื้อขนมมาฝากนาย ขนมร้านนี้อร่อยสุดยอด ฉันซื้อให้พ่อกับนายคนละกล่อง รับรองกินแล้วจะติดใจ” หล่อนเดินเข้ามายื่นถุงขนมให้อย่างมีน้ำใจ แบบลายข้างรถพร้อมใช้งาน “ผมอิ่มแล้ว คุณกินเองเถอะ” แม้น้ำเสียงจะสุภาพ แต่มีกังวานความน้อยใจ และนลินก็สัมผัสได้ จึงคิดว่าเขาคงไม่พอใจที่หล่อนทิ้งให้เขาอยู่เป็นเพื่อนบิดาช่วงหัวค่ำ หล่อนก็รู้สึกผิดเช่นกัน ไม่คิดว่าจะกลับดึกแบบนี้ แต่เพราะคุยกับก้องกานต์จนเพลิน หัวใจอิ่มเอิบจนลืมเวลา หญิงสาวนั่งลงข้างชายหนุ่ม แกล้งใช้ต้นแขนดุนต้นแขนอีกฝ่ายเบาๆ “กินหน่อยสิ ฉันอุตส่าห์ซื้อมาฝากนะ” หล่อนใช้ไม้ออดอ้อน ซึ่งไม่ค่อยได้ใช้บ่อยนัก แต่ครั้งนี้รู้ตัวว่าผิดที่ทิ้งเขาไว้กับบิดา “ผมอิ่มแล้ว” เขายังปฏิเสธเสียงสุภาพ พยายามไม่ใส่ใจแรงดุนตรงต้นแขน “นายโกรธที่ฉันทิ้งนายไว้กับพ่อใช่มั้ย” นลินทำหน้าสำนึกผิดสติ๊กเกอร์แต่งรถ
เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่ 10-6
ท่านพยักหน้ารับรู้ก่อนถามขึ้น “แล้วธีกินข้าวมาหรือยัง” “วันนี้ผมแวะไปกินที่บ้านมาแล้วครับ” “อือ…” ท่านตอบรับสั้นๆ และค่อยๆ ลุกขึ้น “งั้นลุงไปอาบน้ำก่อนนะ วันนี้เหนียวตัวเหลือเกิน อากาศมันร้อนอบอ้าว” บอกเสร็จก็เดินผละจากไป หลังจากนั้นธีธัชก็เดินมานั่งหน้าโทรทัศน์แก้เซ็ง เห็นสองหนุ่มสาวไม่เต็มบาทนั่งคุยกันกะหนุงกะหนิง วันนี้เขาเกิดเบื่อขึ้นมาตงิดๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทั้งยังชำเลืองมองนาฬิกาบนฝาผนังเป็นร้อยรอบจนตาเกือบเหล่ คอแทบเคล็ด “นี่ตัวเอง เค้าจะได้เป็นยามแล้วนะ วันนี้แม่บอกว่าถ้าเค้าขยันฝึกพูดให้ชัดกว่านี้ ตั้งใจฝึกเวลาไปศูนย์ฯ อีกหน่อยก็ไปสมัครเป็นยามได้” อเนกชวนแฟนสาวคุย “จริงเหรอ” น้ำเสียงของสุดาบอกความดีใจสุดขีดสติ๊กเกอร์แต่งรถ honda city แต่ครู่เดียวก็ถามกลับอย่างสงสัย “แต่ไหนตัวเองบอกว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ต้องจบ ปอ.6 ไง แล้วตัวเองไม่ได้จบ ป.6 แล้วจะสมัครได้เหรอ” “ก็แม่บอกว่าพอฝึกจนพูดชัดแล้วก็ไปเรียนต่อไง พอเรียนจบ ป. 6 ก็ไปสมัครเป็นยาม เห็นมั้ย ไม่เห็นจะยากเลย ตัวเองต้องรอเค้า อย่าไปคบกับคนอื่นนะ” น้ำเสียงในช่วงท้ายเจือความกังวล สุดาน้ำตาซึม ยกมือขึ้นซับน้ำตาราวกับนางเอกในละคร “ก็ต้องรอสิ เค้าจะไปคบกับคนอื่นได้ยังไง เค้าจะรอตัวเองตลอดไป” เสียงเครือเล็กน้อยขณะพูด “โดนัต” อเนกเรียนแฟนสาวด้วยความซาบซึ้งใจ “แอนดริว” อีกฝ่ายเรียกชื่อกลับด้วยอารมณ์ไม่ต่างกัน แล้วทั้งสองก็ยื่นมือมากุมกัน ทำท่าราวกับฉากจบในละครน้ำเน่า “โดนัต” “แอนดริว” “ดังนรกชัง หรือสวรรค์แกล้ง แกล้งทรมาน ให้ฉันได้เจอ” ด้วยอารมณ์พาไป อเนกจึงร่ายเพลงรักด้วยแววตาหวานซึ้ง “เกลียดชิงชัง สุดท้ายรักเธอ แต่พอเผลอ พรากเธอดับสูญ” สุดารับมุกเข้าขาด้วยการต่อเพลงในทันทีเช่นกัน ธีธัชกุมขมับอย่างละเหี่ยใจกับฉากรักหวานซึ้งตรงหน้า นึกถึงปลากัดที่จ้องตากันเมื่อไรเป็นได้เรื่อง จู่ๆแบบลายข้างรถพร้อมใช้งาน เสียงสุนัขเห่ารัวก็ดังลั่นแทรกขึ้น สองหนุ่มสาวสะดุ้งโหยง หยุดร้องเพลงกะทันหัน หันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก หลุดจากห้วงอารมณ์รักในบัดดล “ตัวเอง เค้าว่าต้องเป็นไอ้หมานิสัยไม่ดีสองตัวนั้นแน่เลย” สุดากระซิบเบาๆ กับแฟนหนุ่มที่พยักหน้าเออออคล้อยตาม พลางชะเง้อมองออกนอกหน้าต่างอย่างหวาดเสียว จากนั้นทั้งคู่ก็ลดเสียงคุยจู๋จี๋ลง ราวกับรู้ตัวว่าหวานเกินพิกัดจนสุนัขยังหมั่นไส้ ธีธัชจำต้องทนดูฉากรักหวานจ๋อยเย็นเจี๊ยบและบาดใจตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่สุนัขสองตัวนั้นยังทนไม่ไหว ต้องเห่าประท้วง ก็ใช่น่ะสิ ขนาดตัวเขาเองยังเลี่ยนแทบแย่ นี่ถ้าเป็นคนสมองปกติมาทำแบบนี้ต่อหน้า เขาคงได้โก่งคออาเจียนสักสิบรอบไปแล้ว เฮ้อ! สติ๊กเกอร์แต่งรถแต่เพราะรู้ว่าสองคนนี้ไม่ใช่คนปกติทั่วไป จึงพอรับไหว
เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่ 10-3
ธีธัชยิ้มขำก่อนจะหันมาถามท่านอย่างเป็นห่วง “แล้วลุงหายท้องอืดหรือยังครับ” หายตั้งนานแล้ว สองคนนั้นก็พูดเกินไป ธีอย่าไปเชื่อสองคนนี้นะ ลุงยังไม่ได้กินเลย เจ้าแอนดริวก็หาว่าลุงกินข้าวแล้ว ส่วนโดนัตก็เข้าข้างแฟนตลอด” นายสุชาติยื่นหน้าเข้าไปใกล้ธีธัช ลดเสียงให้เบาลง ไม่อยากให้สองคนนั้นได้ยิน “ครับ” เขาตอบรับ แต่แท้จริงรู้ว่าอเนกกับสุดาไม่ได้โกหก “สองคนนั้นน่าหมั่นไส้จริงๆ เลย รักกันเหลือเกิน ตั้งแต่เข้ามาก็นั่งคุยกันกะหนุงกะหนิง ทำอย่างกับชีวิตนี้ไม่เคยมีแฟนมาก่อน” นายสุชาติแกล้งพูดเสียงจริงจัง ก่อนพูดติดตลกปิดท้าย “แหม! แต่ลุงเห็นแล้วก็อิจฉาเหมือนกันนะ” ฟังจบธีธัชก็หลุดหัวเราะเบาๆ “ทำเป็นหัวเราะ แล้วเราน่ะ มีแฟนหรือยัง” จู่ๆ ท่านก็ถามขึ้นหนุ่มน้อยส่ายหน้า“แล้วไม่เคยรักใครเลยเหรอ” สติ๊กเกอร์แต่งรถลายการ์ตูน ชายสูงวัยถามเสียงจริงจัง แววตาขุ่นมัวแบบคนแก่ดูสุกใสขึ้นจนอย่างประหลาดใจ คนฟังส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง รู้สึกขำกับคำถามของชายสูงวัย ไม่คิดว่าท่านจะหยิบยกเรื่องความรักมาเป็นหัวข้อพูดคุย “รู้มั้ย สมัยหนุ่มๆ ลุงไปรักผู้หญิงคนหนึ่ง เธอสวยมากๆ สวยที่สุดในซอยเลย ก็แม่ของนกน้อยกับนกเล็กไงล่ะ” จู่ๆ ชายสูงวัยก็เล่าความหลังในวัยหนุ่มขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม “ตอนนั้นนะ ลุงจีบอยู่ตั้งหลายปี กว่าแม่นกน้อยจะยอมใจอ่อน เมื่อก่อนมีผู้ชายรวยๆ มาจีบเขาตั้งหลายคนนะ แต่สุดท้ายเขาก็เลือกลุง ลุงปลื้มแทบแย่ ดีใจมากๆ ที่แม่ของนกน้อยรักลุงเหมือนที่ลุงรักเธอ พอได้แต่งงานกัน เรามีความสุขกันมาก ทุกวันชีวิตมีแต่รอยยิ้ม แล้วปีถัดมาเราก็มีนกน้อย ลุงก็พยายามทำงานหนักขึ้นเพื่อครอบครัว แม่นกน้อยก็เลี้ยงลูกสติ๊กเกอร์แต่งรถมอเตอร์ไซค์ แต่พอมีนกเล็ก ฐานะของเราเริ่มย่ำแย่ ช่วงนั้นเราลำบากกันมาก บางทีลูกไม่สบายก็ไม่ได้นอนกันทั้งคืน ไม่มีเงินพาลูกไปหาหมอ ต้องไปหยิบยืมชาวบ้าน แล้วตอนนั้นนกเล็กเพิ่งจะไม่กี่เดือน...แม่นกน้อยทนความลำบากไม่ไหว จึงทิ้งพวกเราไปอยู่อเมริกา เขาสวยมาก ขนาดหลังแต่งงานยังมีผู้ชายมาติดพันหลายคน” ธีธัชแปลกใจที่ใบหน้าของท่านยังคงแต่งแต้มรอยยิ้มแห่งความสุขขณะรำลึกถึงความหลัง ทั้งๆ ที่อดีตที่ท่านเล่าช่างหวานอมขมกลืนจนเขายังรู้สึกขมขื่นใจไปด้วย นึกสภาพสามีที่โดนภรรยาทอดทิ้งให้เลี้ยงลูกเล็กๆ สองคนตามลำพังก็อดสะเทือนใจไม่ได้ สติ๊กเกอร์แต่งรถแม้เรื่องราวเหล่านี้จะผ่านมาเนิ่นนานหลายปีแล้วก็ตาม
เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่ 10-2
“เอาเถอะ ถึงจะกระโดดไม่เท่เท่าไอ้ธี แต่ก็ข้ามรั้วมาได้เหมือนกันละวะ” เขาพูดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องแล้วก็เตรียมจะเดินต่อ แต่เหมือนมีอะไรขวางอยู่ พอก้มลงมอง ก็เห็นรั้วขวางอยู่ตรงหน้า จึงเพิ่งรู้ตัวว่าโดดไม่ข้ามรั้ว เลยโวยวายคร่ำครวญอย่างน้อยใจเพื่อนรักและโชคชะตา แทบจะลงไปชักดิ้นชักงอบนพื้นด้วยความอัดอั้นตันใจ “จำไว้เลยนะ ไอ้ธี รู้ว่าตูเตี้ย ยังจะบอกให้มาทางนี้ จะซ้ำเติมความเตี้ยกันไปถึงไหน ทำไมไม่เลือกกำแพงตรงโน้นไปเลย ให้มันสูงมิดหัวตูไปเลย ไอ้เพื่อนเลว” ยงยุทธยังโวยวายอีกหนึ่งชุดใหญ่ ก่อนตัดสินใจเดินอ้อมไปหน้าตึก เพราะประเมินศักยภาพตัวเองแล้วคงไม่อาจกระโดดข้ามรั้วสูงท่วมอกได้แน่นอน หนุ่มน้อยเดินออกมาหน้าบ้าน ชะเง้อคอมองหาใครบางคน แต่ก็ไม่เห็นแม้วี่แวว เกือบทุ่มครึ่งแล้วสติ๊กเกอร์แต่งรถกระบะ แต่เจ้าของบ้านก็ยังไม่กลับ หลายอาทิตย์มานี้ทั้งสองไม่ค่อยได้กลับบ้านด้วยกัน เพราะหล่อนจะมีสารถีขับรถหรูมาส่งถึงบ้านแทบทุกวัน ธีธัชถอนใจเบาๆ ยามนึกถึงใบหน้าสวยที่ฉายถึงความแจ่มใสอยู่ตลอดเวลาในช่วงหลังมานี้ หล่อนคงกำลังมีความสุขกับหนุ่มคนรัก และนี่คือสิ่งที่หล่อนปรารถนา การได้แฟนมีฐานะร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี พักนี้ผู้ชายคนนั้นจะมารับหล่อนไปกินมื้อกลางวันด้วยกันทุกวัน หน้าตานลินจึงยิ้มไม่หุบแทบตลอดเวลา จริงสินะ ตอนนี้เพื่อนรุ่นพี่กำลังมีความสุข เขาก็ควรยินดีไปกับหล่อนด้วย คิดได้เช่นนั้นก็ฝืนยิ้มบางๆ กับตัวเอง ก่อนเดินกลับเข้าบ้าน “อ้าว! ธี มาหานกน้อยเหรอ ยังไม่กลับหรอก” บิดาของหญิงสาวเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นหนุ่มร่างสูงใหญ่ ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะถอนใจเบาๆสติ๊กเกอร์แต่งรถมอเตอร์ไซด์ ทั้งขำและสงสารชายสูงวัยผู้นี้ “ผมพักบ้านนี้ไงครับคุณลุง เมื่อกี้ยังนั่งคุยกับคุณลุงอยู่เลย เดินออกไปแป๊บเดียว พอกลับเข้ามา คุณลุงลืมแล้วหรือครับ” เขาพูดพลางเดินมานั่งบนโซฟาข้างๆ นายสุชาติ “ลุงลืมทุกอย่างเลย ขนาดตอนเย็นกินข้าวไปแล้ว ยังบอกไม่ได้กิน เลยกินเพิ่มไปอีก ท้องอืด จนโดนัตต้องชงยาลดกรดให้กิน” อเนกเหลียวกลับมารายงานเป็นชุด ขณะนั่งคุยกะหนุงกะหนิงกับสุดาอยู่หน้าโทรทัศน์ “ใช่ จริงด้วย” สุดาเสริมขึ้นทันควัน “ใครบอก ลุงยังไม่ได้กินเลย” นายสุชาติโต้กลับทันที “สองคนนี้ชอบกล่าวหาคนแก่” สองหนุ่มสาวสมองไม่เต็มบาทย่นจมูกพร้อมกัน แล้วหันมาคุยซุบซิบกันสองคน พลางชำเลืองมองมาทางชายสูงวัยเป็นครั้งคราว ให้เห็นกันชัดๆสติ๊กเกอร์แต่งรถ ว่ากำลังนินทาชายสูงวัยอยู่
เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่ 9-8 สติ๊กเกอร์แต่งรถ
“นกน้อยเอ๊ย ใครมันมาเปิดหนังโป๊ซะเสียงดังลั่น บัดสีบัดเถลิงจริงๆ เสียงมาจากแถวๆ นี้ สงสัยไอ้อู๊ดข้างบ้านเราหรือเปล่า หนวกหูจริงๆ เลย แล้วดูสิ ร้องโหยหวนอย่างกับแมวผสมพันธุ์กัน” “มีใครมาดูหนังโป๊หรือพ่อ แต่นกน้อยไม่ได้ยินเลยนะ” ขณะตอบก็พยายามเงี่ยหูฟัง พลางหันไปถามหนุ่มน้อย “นายได้ยินมั้ย พ่อบอกเสียงดังลั่นอย่างกับแมวผสมพันธุ์กันด้วยนะ” “ไม่นะ” ธีธัชตอบพลางเงี่ยหูฟังตาม แต่ก็ไม่ได้ยินสรรพเสียงอะไร นอกจากเสียงแมลงด้านนอก “ไม่ได้ยินได้ยังไง ดังลั่นซะขนาดนั้น ไม่ไหว พ่อขึ้นไปนอนข้างบนดีกว่า หนวกหูจริงๆสติ๊กเกอร์แต่งรถกระบะ เลย” บ่นเสร็จชายสูงวัยก็ค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วเดินกระย่องกระแย่งขึ้นบันไดไปชั้นบน “เดินขึ้นบันไดดีๆ นะพ่อ” นลินร้องบอกอย่างเป็นห่วง ก่อนหันมาบอกธีธัช “เกาต่อสิ กำลังมัน” ได้ยินดังนั้นก็จัดให้ตามคำขออีกครั้ง จนอีกฝ่ายร้องครางเสียงแผ่วรัวเป็นชุด ตัวเบาหวิว หายคันหลังเป็นปลิดทิ้ง แถมท้ายด้วยเสียงซูดปากเข้าคู่กันตามจังหวะ “เฮ้อ! ทุเรศจริงๆ ดูมันทำ แทนที่จะหรี่เสียงให้เบาหน่อย กลัวเขาไม่รู้หรือไงว่ากำลังดูหนังอย่างว่า” นายสุชาติบ่นพึมพำขณะเดินมาถึงหน้าประตูห้อง เสียงครวญครางกระเส่ายังดังแว่วมาเป็นระยะๆ ตกค่ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ธีธัชรู้สึกกระหายน้ำ จึงเดินออกมาจากห้องนอน ตรงไปยังห้องครัวที่มืดสนิท มีเพียงเงาสลัวจากแสงจันทร์ส่องเข้ามา เขาเห็นเงาตะคุ่มๆ ของใครบางคนยืนหันหลังอยู่ข้างตู้เย็น จึงคิดว่าคงเป็นนลิน เพราะรูปร่างเล็ก ไม่น่าจะเป็นบิดาของหล่อน “นกน้อย” เขาเรียกเบาๆ ร่างเล็กบางจึงหันมาช้าๆ ช่วงจังหวะนั้น ลมเย็นๆ พัดวูบเข้ามา และธีธัชก็ต้องสะดุ้งโหยง หัวใจเกือบหยุดเต้นสติ๊กเกอร์แต่งรถมอเตอร์ไซด์ เพราะดวงหน้าของผู้หญิงตรงหน้าขาววอก ไม่ใช่นลินแน่นอน แล้วจะเป็นอื่นใดไปได้ นอกจากจุดจุดจุด หนุ่มน้อยหลับตาแน่น ขาแข็ง ขยับเขยื้อนไม่ได้ แต่ยังพอมีสติท่องบทสวดมนต์งึมงำ “นายเป็นอะไรของนาย” เสียงใสคุ้นหูดังขึ้น ธีธัชจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น ก็เห็นดวงตากลมโตจ้องมองมา เขาเพ่งมองกลับ สักพักก็จำได้ว่าสาวน้อยหน้าขาววอกนี้เป็นใคร จึงถอนใจดังเฮือก “ปัดโธ่! นกน้อย คุณทำอะไรของคุณ หัวใจผมจะวาย ไฟก็ไม่เปิด แล้วทำไมหน้าขาววอกแบบนี้” “นายนี่ขวัญอ่อนไปได้ แล้วที่ไม่เปิดไฟเพราะมันเปลือง แค่ลงมาดื่มน้ำนิดหน่อย แล้วที่หน้าขาวก็เพราะทาคาลาไมน์ มันคัน” หญิงสาวเอ่ยพลางเดินไปกดสวิตช์ไฟ เพียงชั่วอึดใจห้องครัวก็สว่างไสวขึ้น แล้วชายหนุ่มก็ได้เห็นชัดๆ ว่าหล่อนไม่ได้ขาววอกแค่ใบหน้า สติ๊กเกอร์แต่งรถ แต่ขาวโพลนไปทั้งตัวด้วยคาลาไมน์
ความชอบพอแผ่นจดหมายหวานขมตอนแหล่ง 9-4
“มีอาหารจานบันทึกใดพื้นที่เผ้าผมบังคับการมาสัมผัสปากมึงเป็นพิเศษค่อยขอรับ” โอกาสเอ็ดสนั่นกานต์เรียนถามรุ่ง “ส้มตำไก่เผาคะ” เช่นกันข้อความในที่คร่ำเคร่งอาศัยกับดักเมนูเฉียบหนาวนี้ จึ่งป้ำๆ เป๋อๆตอบคำถามดั่งเคลิ้ม เจอะภูกระทำการด้านหน้าแปลกๆ ผ่านพ้นด่วนซ่อมแซม “ลิ้นรัวเที่ยวไปไม่ช้าค่ะ รวมความว่าจักบอกตักเตือนโปรดปรานสเต๊กพร้อมกับกุ้งอสุรา บริบูรณ์มันสมอง..เป็นกุ้งแอบสเตอร์น่ะจ๋า” หนุ่มน้อยก้มศีรษะ ส่งยิ้มโถงชักดวงกมลวัยสาวเดิมตอบคำถาม “ดีใจครับพื้นดินอุปการะถูกต้อง แต่ถ้าว่าวันหน้าวันหลังดิฉันจากไปบริโภคส้มตำไก่จี่ยับยั้งเป็นประโยชน์มั้ยขอรับ กลับตาลปัตรบรรยากาศบ้าง” หน้าคมคายฉายแสงแววเล่นหัว หล่อนเงยหน้าด้านเกี่ยวกับข้อคดีพิศวงปนเขิน ปางชั่วประเดี๋ยวพนมคงจะได้ฟังต่อว่าหล่อนลืมพูดคุยที่ใดคลอดมาหา พร้อมด้วยงงงวยในชายรุ่นมาดโก้เก๋ เพ่งพิศทรอึง ยโส ที่แรกเริ่มณพานพบเกียดกัน กลับเป็นสดชายขี้บรรเลง เปล่าหยิ่ง ยิ้มแฉ่งรอบรู้ วินาทีตรงนั้นหัวอกเจ้าหล่อนดิ้นสั่นสะเทือน นี่มังถือเอาว่าเครื่องที่อยู่เจ้าหล่อนไล่ตามค้นมาสู่เป็นเวลายาวนาน เนื่องจากที่ชีวิตินทรีย์มิเคยมีอยู่ครั้งไหนพื้นที่หัวจิตหัวใจเต้นกระหน่ำ โลหิตสูบฉีด รู้มีชีวิตชีวาสติ๊กเกอร์แต่งรถksr ทุกสิ่งทุกอย่างรอบร่างเห็นแจ่มจ้าแค่ต่อนี้ไปมาสู่แต่ก่อน เจ้าหล่อนไม่ใช่มานพเชื่อง่าย เพียงบุรุษทัศนาเจริญจากสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างมาสู่ติดพันมิกี่วัน ก็ใจครั่นคร้ามเดินกว่าครึ่ง เสียแต่ว่านาทีอุไรรูปร่างตรงนี้ใช่จะแวะวนเวียนมาถึงมาหาภายในปากท้องลูกทรามสงวนธรรมดาๆ พังขณะใด ภิญโญแม่นางไม่ใช่พธูเค้ามูลออกจากกลุ่มกระเป๋าหนัก สิ้นการเรียนรู้ดำเนินแตกต่างประชาชาติ เหรอประกอบด้วยข้อผูกมัดอาชีพใหญ่โต ทั้งๆ ที่พักตร์จักเข้ามาสถานภาพมโนหร ถ้าว่าหญิงกาลสมัยนี้ก็เก๋แยกทุกผู้ทุกนาม เหตุด้วยกอบด้วยสิ่งใหม่เพียบโปรดส่งมอบขาโครงหน้าแย่ๆ น่าเอ็นดูพริ้งได้รับหมวดมิน่าจะถือ อีกเช่นพรรษาตรงนี้วัยก็สองทศเจ็ดจบ อีกเปล่ากี่ทอผ้าศักราชก็สามทศ แล้วไปสมมตสามสิบทีไร ก็เตรียมตัวร่างกายมาถึงพิพิธภัณฑสถานหาได้เลย “คุณฉันตำส้มไก่จี่เหตุด้วยหรือว่าคะ” นลินไต่ถามเหมือนเปล่าแน่ใจ “ก็ฉันคว้าจบล่ะครับผม ผมสิ่งมีชีวิตเมืองไทยหนอ ฉันมิยังมีชีวิตอยู่ได้ไง กำนัลเกศามาหาดำรงตำแหน่งการบริจาคกระยาหารหรูๆ แม่แบบนี้ตลอดเพรา ก็ระอาเทียบเท่าแยกหนอ ใสครั้งก็จงขอร้องตำส้มขวางน้อย” นกเขาขานตอบอีกด้วยเสียงสนิทสนม กระทั่งอีกเหล่ารู้ตักเตือนที่ว่างระหว่างทั่วญิบขาคับเข้ามาสู่ช้าๆ ภายหลังตรงนั้นกำทวนกานต์ก็แวะมาริส่งเธอในที่กองกลางสติ๊กเกอร์แต่งรถ honda city “แล้วเส้นผมจักโทรศัพท์. ลงมาควานอีกหนอ สกุณกิ่งก้อย” ภูเขาเอิ้นนลินอปิ้งเป็นกันเอง แววตากลาบาตจดๆ จ้องๆเต็มไปด้วยความสำคัญกระเป๋าแห้งเจ้าหล่อนอดอยากปลาบปลื้มเปล่าจัดหามา เสียแต่ว่าพยายามเก็บลีลา มิปลื้มปิติระริกระรี้ระรี้หมดหนทางออกนอกหน้า เพียงส่งยิ้มแย้มบางๆ และผงกศีรษะขานตอบ ครั้นเข้าหุ้นส่วน วิยะดาก็สืบถามดั้นด้น พร้อมด้วยพูดหยอกเย้ายังไม่ตายวรรค กระเป๋าแห้งเจ้าหล่อนได้แต่ยิ้มแฉ่งเขินๆ “คุณหวั่นไหวกานต์มาริเกี้ยวเจ้าหล่อนหรือไม่ก็เนี่ย เปล่าน่าฟังเลย ผมอยู่สืบสาวราวเรื่องชีวประวัติคีรีมาสู่ต่อจากนั้นนะ มั่งมีแท้ โอรสสัตว์สองเท้าเดี่ยวเช่นกัน เจ้าหล่อนี่ไม่เงียบเลยหนอ ซินแซนี่เจนหมุนไฮอดอยากพร้อมตัวละครมาริก่อนเกี่ยวกับนะ สหายดีฉันเสน่ห์เชี่ยวจริงๆ ขนาดเรา เช่นงดงามสุดๆเพียงโอรสร้านค้าอาคารกลึงก็สง่าสุดแล้ว ใช่ไหมไม่ก็อาเสี่ยอู่ เฮ้อ! บุญบารมีมันแผลบผิดกันและกันจริงๆ” วิยะดาพูดเอื่อยๆสติ๊กเกอร์แต่งรถ “เธอลงมือไงน่ะ ไฉนจู่ๆ ปราณีร่ำรวยประเภทนี้มาหาเกี้ยวพานได้รับ”
เหตุรักใคร่ชอบพอแผ่นเอกสารง่ายๆผักโหมเรื่องในที่ สติ๊กเกอร์แต่งรถ 9-2
ที่แท้บทพานพบกั้นโอกาสแรกเริ่มก็ดอดถูกใจเพศชายสัตว์ตรงนี้พักพิงต่อจากนั้น แต่ทว่านึกติเตียนอาจนฤมิตได้มาเช่นแอบไปติดอกติดใจ เวลานี้ผู้ชายกอบด้วยคุณลักษณะพร้อมพรั่งสัตว์สองเท้าอะไรจักมาสู่ปฏิพัทธ์สาวจนๆ มีแต่ในที่นิยายน้ำเน่าน่ะซิ อุตดมภูเขาปลดเปลื้องแยกออกรออยู่แต่งนานมาก ก็ภิญโญอิดหนาระอาใจชะตากรรมตนเอง ถ้าว่าเคราะห์สิ่งคนเราสามารถจะไม่ชั่วร้ายแท้ ตอนสิ่งของถิ่นที่ดิฉันตั้งตาคอยจักมาสู่ ก็มาริจำพวกมิเท่าเทียมได้ยกขึ้นกาย อย่างเดียวอย่างไรก็ดีเจ้าหล่อนจักลุกลนเปล่าจัดหามา แตะทัศนะชายต่อกันอีกต้นสักหน่อย พร้อมด้วยแตะต้องยักท่าอุปถัมภ์เพียงพอมโนรม “อืม.มันสมองมันสมองไม่เป็นไรดอกขา ส่วนกลางวันตรงนั้น มนุษย์เราธุรกิจเป็นเกลียวบังหาได้ ไม่จำเป็นสมโภชภัตสำหรับหมายถึงการไถ่ถอนโทษโพยดอกจ๋า” เสียงเธอท้วมๆรุ่งครั้นเมื่อสนองไข “ไม่จัดหามาหรอกครับผม ทิวานั้นข้าพระพุทธเจ้าเสียมารยาทดังบานตะเกียง ต่างว่ามิหาได้เลี้ยวต้นข้าวแกสติ๊กเกอร์แต่งรถลายการ์ตูน เส้นผมคงรู้ผิดจริงๆ” สนั่นกานต์ยังคงร่ำร้อง “แต่วันนี้ข้าเจ้าติดหนี้ผู้ซื้อน่ะจ้ะ ดำรงเคลื่อนที่ไม่ได้จริงๆ” แม่นางตอบรับไม่ยอมอีกกาล พร้อมกับทัศน์ท่าทางแห้วข้างในดวงแก้วข้าวของภู จึ่งปลงใจส่งภาษาแด่อีกประโยค “เอ่อ.มันสมองมันสมองเท่านั้นสมมติว่าทิวาอื่นก็สามารถจะหาได้ขา” สีหน้าท่าทางพ่ายแพ้กลับดำรงฐานะยิ้มร่าเนียนนุ่ม พลางปนเปสายตากับดักนลิน ประหนึ่งละโมบพาหะนัยลุ่มลึกslimหมู่ พร้อมทั้งหล่อนก็รับทราบได้มาในที่เดี๋ยวนี้ อย่างไรก็ดียังคงจงออมอากัปกิริยาในฐานันดรหมายถึงเลือดเนื้อเชื้อไขนารี โดยเหตุที่สมมติว่าหมูมิดหมีพ้นเดิน ชายก็จักเปล่าพิศคุณสมบัติ “ก็ได้ครับ ถ้าเช่นนั้นวันพรุ่งผมเผ้าติดต่อมันสมอง มาหาสืบจัดหามามั้ย” กำทวนกานต์ตั้งคำถามน้ำเสียงนุ่มนวลละมุนละไมเธอแกล้งทำทำท่าทำทางตรึกตรองคงอยู่ได้ชั่วครู่หนึ่ง เดิมจะพยักหน้าพร้อมกับยิ้มแป้นใยสติ๊กเกอร์แต่งรถกระบะ หลังจากตรงนั้นโฆษะกานต์ก็ตาขอลากลับ หฤทัยเธอกระดี๊กระด๊าประเภทในที่เปล่าคุ้นยังไม่ตายมาริเดิม ซุกซ่อนชะแง้ชม จ้องคีรีขับเคลื่อนรถสง่า ค่าหมวดทราม10กล้อนคลอดเดิน ก็ปิ่มมุ่งหวังตะเบ็งกรีดกราดออกลูกมาดังๆ จนแต้มต้องเม้มปากคับ จากนั้นก้าวเดินมาถึงเสด็จที่ห้องทำงาน พบวิยะดาคอยซักถามกลุ่มระทึกขวัญ “นกน้อยนิด ชายฉกรรจ์ขานั้นใคร หล่อเหลาเต็มแรง จ้องส่งภาษาขวางถกลนานนม” วิยะดาถามซอกแซกประเดี๋ยวนี้ที่อยู่นลินเข้าไปดำรงตำแหน่งบ่อยเขต “คุณกำทวนกานต์ ถัดจากประธานบริษัทส่งคลอด” นลินตอบเหมือนกันท่าทีโดยปกติ แม้หทัยพางจะหล่นคลอดมาสู่หน้าด้านนอก “เขาตกลงซื้อของรถหลังจากนั้น ผ่านพ้นหยิบยกรับปากมาหาให้” “คุณโฆษะกานต์?” วิยะดาขมวดคิ้ว ทำท่าทำทางคิดสึงขณะหนึ่งเอ็ด “อ๋อ! สิ่งมีชีวิตทำเนียบเจ้าหล่อนชี้แจงว่าช่างส่งเสียเจ้าหล่อนรออยู่นานนมหมายความว่ามหุรดี ล่วงเลยแง่นพนมซะพรุน กับกล้าจงเสื่อมโทรมลูกค้าจรน่ะเหรอ” นลินพยักหน้าแทนงานตอบกลับ “ว้าว! แล้วไปนี่จ้องซิ ประสกรองประธานอุตส่าห์หยิบยกให้คำปฏิญาณลงมายื่นให้เอง แทนที่ถิ่นที่จักเรียกคุณจรนำ สนุกชักจะหัวเด็ดตีนขาด ต่อจากนั้นหนอ” วิยะดาร้องเรียกพูดเย้าแหย่ ความสุกใสจักขุยุบริกๆสติ๊กเกอร์แต่งรถ สืบสาวสหายอีกพักใหญ่ๆ เพื่อข้อคดีอยากรู้ ยันเวาสัมผัสคลอดจรเจอะลูกค้า จึงทบทวนควรอยู่ข้อสงสัยสืบหาไว้เท่าตรงนั้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)