โลกแห่งการค้นหา..เพื่อชีวิต
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แฟชั่น แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แฟชั่น แสดงบทความทั้งหมด
เทียบกันดู เสื้อผ้าวัยรุ่นชุดนักเรียน 5 ชาติ
เสื้อผ้าแฟชั่นวรรคนักศึกษาจัดจ้านกเรียน กล้าหาญทำได้สะท้อนแบ่งออกมองอาบันมาตรฐานกรณีงามสิ่งแว่นแคว้นหนึ่งๆ ซึ่งมีเอกลักษณ์ชิ้นสะดุดตาผิดแผกสกัดกั้นเดินทาง อย่างเดียวเขตปลูกสร้างกรณีโด่งดัง ร้องเรียกแต้มกรณียั่วจัดหามาหนาหูหนาตามุทธา บางทีคือเหล่าเครื่องนุ่งห่มนักเรียน-ผู้เรียนสาวสิ่งของเมืองไทย ในน่าหลงใหลเย้ายวน ขณะ ฟอร์มนักศึกษาเวียดนาม อนุรักษ์พิธีกรรม ภูษณพาสที่รูปร่างเสน่ห์เชื้อเชิญชม สื่อจีน คว้าชี้แจงกลุ่มทัศนียภาพเครื่องแบบระยะนักเรียน-ผู้เรียน 5 ชาติกำเนิด เป็นต้นว่า ประเทศเมืองไทย เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ พร้อมด้วยเกาหลีเหนือ ริเริ่มเกียดกันแดน ฟอร์มนักศึกษามาตุคามของใช้ประเทศไทยที่ดินทัศนาห้ามปรามข้างในล่าสุด ซึ่งยังคงยังไม่ตายใจความสำคัญโต้แย้งว่าร้าย กอบด้วยข้อความลงตัวไม่ใช่หรือไม่ โดยนักเรียนวนิดาประเทศไทยคราวนี้โดยมาก จะสวมเชิ้ตเพศหญิงขัดสีขาวรัดรูปฟิตเปรี๊ยะ มองดูสัดส่วนโก่งเว้าแหว่งหยอกล้อโน กับเสือกกระโปรงขัดออกลูกกล้อท่วงทีหรือไม่ปลูกข้าว ไซส์ไม่นิเหี้ยนเพียงคืบ เห็นวางธุระวอนเพศรสชาติถูกใจที่จริง ทางความดึงดูดใจน่าหลงใหลข้าวของฟอร์มนักศึกษาสยาม มาหาร้ายแรงแซงคดเคี้ยว ล่าสุดตราบเดือนมกราคมถิ่นที่สร้างผ่านมาสู่ หนังสือพิมพ์ครามครันต้นฉบับเครื่องใช้ประเทศญี่ปุ่น ได้เสนอประกาศตวาด ละผลสรุปงานตรวจตราประเมินค่าเครื่องแบบผู้เรียน-ผู้เรียน ส่วนมากโผล่ยกให้เครื่องแบบชุดนักศึกษาของใช้รัฐไทยังไม่ตายเครื่องแบบแผ่นดินน่าหลงใหลเต็มที่ สมมุติว่าเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลีจะก่อเกิดกระแสคิดเห็นอาบันกรณีมิเข้าท่าเข้าทาง ทว่า พลัดการสัมภาษณ์เห็นแหว ผู้เรียนหญิงสาวสยามจำนวนมาก ชมชอบเนื้อที่จักแต่งองค์ทรงเครื่องข้างในลักษณะดังกล่าว ด้วยว่ารู้สึกเหมานำสมัย ด้วยว่าชุดนักศึกษาทำเนียบประกอบด้วยเสน่ห์ชักชวนสังเกตแบบแปลนอนุรักษ์ ลงความว่า ชุดนักศึกษาเวียดนาม "อ่าวหญ่าย" หมู่คณะนักเรียน-นิสิตพนิดาของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งกอบด้วยนานาประการแบบ เพราะทั่วถึง ประกอบด้วย 3 ตัวประกอบ ยกตัวอย่างเช่น เสื้อเชิร์ตอิตถีสีสีขาว กระโปรงเกี้ยวพานรอยเขียนสก็อต พร้อมด้วยเคียนเนคไทล์ ไม่ก็มิก็พันธนาการโบว์น่ารักๆ วรรคผู้เรียนประเทศญี่ปุ่นเพราะว่าครอบคลุม ส่วนบนจักประกอบด้วยต่างๆสไตล์ ฤดูหนาวเหน็บจักสวมเสื้อโค้ทหรือไม่เสื้อคลุมขนสัตว์ ตอนที่ แท่งล่าง ไม่ว่าจักฤดูอะไร ก็ทั้งเป็นกระโปรงขาดรูปจิ๊ด การดีไซน์เหล่านักเรียนแบบแฟชั่น หมายความว่าข้อดีสิ่งเป็นหน้าเป็นตาเครื่องใช้ประเทศญี่ปุ่น ชิ้นบำเพ็ญประทานกลุ่มดังกล่าวแลไม่พลัดเทรนด์ จนกระทั่งสัดส่วนในแหว นารีชาวญี่ปุ่น แม้นจักพระชนมายุหงำจนถึงครอบครองมาดาสัตว์สองเท้าจบเสื้อผ้าแฟชั่นอินเทรนด์ แม้กระนั้นก็ยังคงไม่กำแหงทอยเหล่าเด็กนักเรียนของใช้ท่อนตัดความสัมพันธ์ กับชุดนักศึกษาแห่งหนคลำหาเพ่งพินิศได้มาทุสิ่งเขตแดนจันทร์ปลาเนื้ออ่อน ทัศนาเสมอง่ายตั้ง มีอยู่เช็ดแผนการปรากฏ 2 เช็ด ตัวอย่างเช่น ถูหงอกพร้อมทั้งขัดเวหะ ณมองเบิ่งละม้ายคล้ายคลึงประหนึ่งแบบกองนักศึกษาหญิงสาวข้าวของเครื่องใช้แว่นแคว้นเมืองจีนภายในยุคสมัยระยะเวลาศตพรรษแห่ง 50-60
กลยุทย์ในธุรกิจขายเสื้อผ้าแฟชั่น ของบริษัทซาบีน่า ตอนที่6
[ ภาวะการแข่งขันในประเทศ ] ตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นชุดชั้นในภายในประเทศเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงในทุกระดับราคา โดยมีผู้ประกอบการหลายรายในอุตสาหกรรมชุดชั้นใน เช่น บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตชุดชั้นในตรา “Wacoal” บริษัท ไทรอัมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตชุดชั้นในตรา “Triumph” และบริษัทฯ ผู้ผลิตชุดชั้นในตรา “Sabina” และยังมีผู้ผลิตรายย่อยซึ่งผลิตชุดชั้นในโดยไม่มีเครื่องหมายการค้าจำนวนมากรองรับตลาดผู้บริโภคที่คำนึงถึงราคาเป็นประเด็นหลักในการเลือกซื้อสินค้า โดยหากแบ่งสัดส่วนตลาดโดยประมาณแล้ว บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) จะมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด รองลงมาจะเป็นบริษัทฯ และบริษัท ไทรอัมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งปัจจุบัน เนื่องจากตลาดชุดชั้นในโดยรวมในประเทศมีอัตราการเติบโตไม่สูงนัก ทำให้ทุกแบรนด์ทั้งแบรนด์ที่เป็นผู้นำและผู้ตาม ต้องหันมาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดกันอย่างหนัก โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา, ประชาสัมพันธ์, การตลาดทางตรง และที่มีการแข่งกันกันมากที่สุดจะเป็นการส่งเสริมการขาย ในการจัดโปรโมชั่นลดราคากันมากยิ่งขึ้น นอกจากการแข่งขันระหว่างบริษัทผู้ผลิตภายในประเทศ ยังมีการแข่งขันจากผู้ผลิตชุดชั้นในชั้นนำจากต่างประเทศ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา เป็นต้น ที่เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดผู้บริโภคระดับบน สำหรับตลาดผู้บริโภคที่คำนึงถึงราคาเป็นประเด็นหลัก มีการแข่งขันจากชุดชั้นในนำเข้าราคาประหยัดจากผู้ผลิตจากประเทศใกล้เคียง เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีต้นทุนการผลิตต่ำ เสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี เป็นต้น [ การนำเข้าสินค้าประเภทชุดชั้นใน ] จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปี 2552 อัตราการนำเข้าอยู่ในลักษณะคงตัวมาโดยตลอด แต่ในปี 2553 ที่ผ่านมา มีอัตราการนำเข้าชุดชั้นในเติบโตสูงขึ้นเป็นอย่างมากโดยสูงขึ้นถึง 21%และต่อเนื่องไปถึงปี 2554 ที่ยังคงสูงขึ้นถึง 13% หรือคิดเป็นการนำเข้าสูงถึง 124 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนหนึ่งคาดว่าจากข้อตกลงทางการค้า AFTA ซึ่งได้เริ่มต้นอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อ 1 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งการนำเข้าที่สูงขึ้นดังกล่าว เป็นการส่งสัญญาณถึงแบรนด์ หรือสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาแข่งขันในประเทศมากยิ่งขึ้น ทำให้คาดว่าในปี 2555 การแข่งขันตลาดชุดชั้นในในประเทศจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้นว่า ประเทศไทยยังคงมีการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนมากเป็นอันดับหนึ่ง และมีการเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเพิ่มสูงขึ้นถึงประมาณ 410 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่า 2033 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25 ซึ่งคาดว่าเป็นการนำเข้าของกลุ่มดีสเคาท์สโตร์ ที่มีการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนซึ่งมีราคาถูกเข้ามาจำหน่ายในห้างของตนเองมากขึ้น(เสื้อผ้าแฟชั่นราคาถูก) แต่ขณะเดียวกัน การนำเข้าของประเทศฮ่องกงกลับลดลงเป็นอย่างมาก แต่กลับมีการนำเข้าจากประเทศเวียดนามและบังคลาเทศเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก คาดว่าจะเป็นการนำเข้าของแบรนด์จากต่างประเทศ ที่ว่าจ้างประเทศทั้ง 2 ประเทศ ดังกล่าวผลิต
กลยุทย์ในธุรกิจขายเสื้อผ้าแฟชั่น ของบริษัทซาบีน่า part5
ในอดีตความประการอันสำคัญ ที่มีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าต่อการเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นชุดชั้นใน คือ ประโยชน์ในการใช้งาน (Function) ผู้บริโภคมักเลือกซื้อชุดชั้นในที่ช่วยรักษารูปร่างและกระชับสัดส่วน แต่ในปัจจุบัน พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยนอกจากคำนึงถึงประโยชน์การใช้งานแล้ว ผู้บริโภคยังหันมาให้ความสำคัญในเรื่องรูปแบบ (Fashion) และ ดีไซน์ (Design) ของชุดชั้นในมากขึ้น กล่าวคือ ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อชุดชั้นในที่มีการออกแบบสวยงาม ทันสมัย เพื่อให้สอดรับกับแฟชั่นเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มีการเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากชุดชั้นในเป็นสินค้าจำเป็นและมีอายุการใช้งานจำกัด ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคดังกล่าว ส่งผลให้ความถี่ในการบริโภคชุดชั้นในเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนับเป็นปัจจัยสนับสนุนให้มีปริมาณความต้องการบริโภคชุดชั้นในอย่างต่อเนื่อง ในปี 2555 คาดว่าอุปสงค์ของชุดชั้นในในประเทศจะมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับที่ไม่เติบโตเท่าไรนัก ทั้งนี้เนื่องจาก ในช่วงปลายปี 2554 ได้เกิดปัญหามหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้บ้านเรือนประชาชนต้องจมน้ำเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องนำรายได้ไปซื้อสินค้าที่จำเป็น และซ่อมแซมบ้านเรือนที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วม เป็นหลัก ส่วนสินค้าที่ฟุ่มเฟือย อาจจะมีการชะลอการซื้อออกไปได้ แต่อย่างไรก็ตามจากนโยบายรัฐบาลที่จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล และขึ้น 40% ในเขตอื่นๆ นั้น อาจจะส่งผลกระทบทั้งทางบวก และทางลบ กล่าวคือ ในทางบวก ประชาชนจะมีรายได้ที่สูงขึ้น นำเงินมาใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดดีมานด์เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ในทางกลับกันเมื่อมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำทำให้หลายๆ อุตสาหกรรมมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการ์เมนท์ ที่จะต้องใช้แรงงานฝีมือเป็นหลัก เมื่อต้นทุนสูงขึ้นปัญหาที่ตามมาคือ สินค้าที่ใช้แรงงานเป็นปัจจัยหลัก มีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นราคาสินค้า ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาภาวะเงินเฟ้อในประเทศ ตามมา ด้านอุปทานชุดชั้นใน มีผู้ผลิตทั้งรายใหญ่ รายกลางและรายย่อยกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 40 ราย ซึ่งคาดว่ารายเล็กๆ จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล ซึ่งอาจจะทำให้มีรายย่อยหลายรายอาจจะต้องปิดกิจการลง นอกจากกำลังการผลิตในประเทศ ยังมีเสื้อผ้าแฟชั่นอินเทรนด์ชุดชั้นในที่มีชื่อเสียงจำหน่ายในราคาสูงจากประเทศในแถบตะวันตก และชุดชั้นในราคาประหยัดจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นจำนวนมากเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ลักษณะการผลิตมีทั้งที่เป็นการผลิตให้กับตราสินค้าต่างประเทศเพื่อส่งออกทั้งหมด (OEM) หรือ ซื้อลิขสิทธิ์ตราสินค้าจากต่างประเทศเพื่อผลิตและจำหน่ายในประเทศและเพื่อส่งออก รวมทั้งการผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง และการผลิตโดยไม่มีเครื่องหมายการค้า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้ผลิตเริ่มให้ความสำคัญกับมูลค่าผลิตภัณฑ์ (Product Value) มากขึ้น จึงมีการพัฒนาการผลิต การสร้างโครงข่ายอุตสาหกรรม การจัดการวัตถุดิบเพื่อปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงมีการจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและนักออกแบบจากต่างประเทศมาช่วยพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์
กลยุทย์ในธุรกิจขายเสื้อผ้าแฟชั่น ของบริษัทซาบีน่า part4
[ กลุ่มลูกค้าต่างประเทศ (OEM) ] กลุ่มลูกค้าต่างประเทศผู้สั่งผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นชุดชั้นในภายใต้เครื่องหมายการค้าของผู้สั่งผลิต โดยส่วนใหญ่เป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ มานาน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทจำหน่ายชุดชั้นในที่มีชื่อเสียง มีการประกอบกิจการมานานในทวีปยุโรป เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น กลุ่มลูกค้าเหล่านี้มีทั้งผู้จำหน่ายชุดชั้นในที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานจนถึงแบบแฟชั่นที่เป็นคอลเลคชั่นจำกัด สำหรับตลาดผู้บริโภคตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับบน แต่ปัจจุบันจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในทวีปยุโรปหลายแบรนด์เริ่มปรับตลาดตนเองไปยังระดับกลางมากยิ่งขึ้น และลดระดับบนลงไปอย่างมาก (x) การจัดจำหน่ายและช่องทางการจัดจำหน่าย การจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทย่อย บริษัทฯ จำหน่ายชุดชั้นในภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทย่อยภายในประเทศ ผ่านหลายช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ผ่านเคาน์เตอร์ภายในห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด รวมถึงเคาน์เตอร์ภายในดิสเคานท์สโตร์ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 480 บริษัทฯ จะวางขายเสื้อผ้าแฟชั่นตามจุดจำหน่ายต่างๆ โดยเป็นลักษณะการฝากขายสินค้า และมีการโอนย้ายสินค้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละจุดจำหน่าย บริษัทฯ จัดให้มีพนักงานขาย จำนวน 2-3 คน ซึ่งเป็นพนักงานขายที่ได้รับการฝึกอบรมให้มีความสามารถในการสื่อสินค้าให้ถึงลูกค้าเป้าหมาย เพื่อให้คำแนะนำแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง และจุดเด่นต่างๆของผลิตภัณฑ์ ในขณะเดียวกันก็สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลความต้องการหรือข้อเสนอแนะของลูกค้า กลับมายังฝ่ายวิจัยพัฒนาเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ได้ตรงต่อความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานขายจำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 850 คน สำหรับการจำหน่ายในต่างประเทศ บริษัทฯ มีการจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า “Sabina” “Sabinie” “SBN” ผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศ พม่า ไต้หวัน เวียดนาม เกาหลีใต้ กัมพูชา เป็นต้น [ การจำหน่ายสินค้า OEM ] บริษัทฯ มีการผลิตสินค้าตามรูปแบบที่ออกแบบโดยบริษัทฯ และบริษัทย่อย และตามรูปแบบของลูกค้าเอง โดยลูกค้า OEM ส่วนใหญ่ เป็นลูกค้ารายใหญ่ ที่มีชื่อเสียง ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยลูกค้าส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์กันมายาวนาน มีลักษณะการจำหน่ายเป็นครั้งๆ ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ประกอบด้วยลูกค้าที่เป็นทั้ง Own Stores Department Stores Modern Trade Wholesaler Trading firm ตลอดจนถึงลูกค้าที่เป็น Importer รายใหญ่ในอังกฤษ และยุโรป (x) ภาวะอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในจัดเป็นอุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสิ่งทอขั้นปลายที่ใช้แรงงานฝีมือเป็นหลัก (Skilled labor intensive) ซึ่งทางบริษัทฯ มีทั้งการผลิตสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆเพื่อจำหน่ายในตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง และการผลิตชุดชั้นในภายใต้เครื่องหมายการค้าของผู้สั่งผลิต (OEM) ภาวะอุปสงค์ อุปทานของชุดชั้นในในประเทศไทย ภาวะอุปสงค์ สัดส่วนประชากรในประเทศไทยในปี 2554 มีประชากรเพศหญิงใกล้เคียงกับเพศชาย กล่าวคือ มีประชากรเพศหญิงประมาณ 31 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 64 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 49 ของประชากรทั้งหมดของประเทศไทย
กลยุทย์ในธุรกิจขายเสื้อผ้าแฟชั่น ของบริษัทซาบีน่า ตอนที่2
[ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ] บริษัทฯได้แบ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพื่อขายเสื้อผ้าแฟชั่นตามวัย และประเภท ซึ่งมีพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าที่แตกต่างกันดังนี้ [ กลุ่มลูกค้าวัยเด็กและวัยรุ่น ] กลุ่มลูกค้าทั้งสองวัยนี้เป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ ผลิตสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในเรื่อง ดีไซน์ สีสัน และความน่ารักเหมาะสมกับวัย ทำให้เครื่องหมายการค้าของบริษัทย่อย เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ด้วยลักษณะของสินค้า รูปแบบแฟชั่น และมีการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่อยู่เสมอ บริษัทฯ จึงสามารถสร้างรายได้จากลูกค้ากลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง [ สำหรับกลุ่มลูกค้าวัยเด็ก ] ตั้งแต่ประถมต้นจนถึงมัธยมต้น ผู้ปกครองเป็นผู้มีอิทธิพลในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า บริษัทฯ ได้ผลิตชุดชั้นในของเด็กภายใต้เครื่องหมายการค้า “Sabinie” เพื่อรองรับสรีระในวัยเด็ก โดยเน้นการออกแบบที่น่ารักสมวัย และเน้นคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิต เนื่องจากเป็นวัยที่เพิ่งจะเริ่มใส่เสื้อชั้นใน จึงต้องพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวสัมผัสของเด็ก [ กลุ่มลูกค้าวัยรุ่น ] เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายถึงนักศึกษามหาวิทยาลัย เป็นวัยที่เพื่อนและบุคคลที่ตนเองชื่นชอบมีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้า ซึ่งมักเลือกซื้อสินค้าตามแฟชั่น และฟังก์ชั่นในการใช้งานที่สามารถทำให้บุคลิกภาพของตนดูดียิ่งขึ้น ในสายตาของคนอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันเสื้อผ้าวัยรุ่นแบรนด์ซาบีน่า ได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักมากขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น ทางบริษัทฯ ยังคงเน้นในการออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นแฟชั่นในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง และยังมีการปรับปรุง หรือคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้โดยตลอด [ กลุ่มลูกค้าวัยสาวและวัยผู้ใหญ่ ] ลูกค้าในกลุ่มนี้จะมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นทำให้เริ่มคำนึงถึงประโยชน์การใช้งานมากกว่าความสวยงามเพียงอย่างเดียว นอกจากนั้น ยังมีอำนาจการซื้อสูงและปริมาณลูกค้าจำนวนมาก บริษัทฯ จึงวางแผนออกผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้นในอนาคต โดยบริษัทฯ ได้เริ่มมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีประโยชน์ในการใช้งาน แก้ไขข้อบกพร่อง และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งทางบริษัทฯ มีสินค้าสำหรับรูปทรงหน้าอกของลูกค้าทุกแบบ และทุกประโยชน์ใช้สอย ตัวอย่างเช่น “Moldern Curve by Sabina” ซึ่งช่วยทำให้ผู้ใช้มีสรีระที่สวยงาม ดูเนียนเรียบเป็นธรรมชาติมากขึ้น แก้ปัญหาในการแต่งตัวตามสมัยนิยม เพิ่มความมั่นใจ และความสวยงามแก่ผู้บริโภค เพื่อเข้าถึงตลาดในกลุ่มวัยสาวและวัยผู้ใหญ่ โดยใช้จุดเด่นในด้านฟังก์ชั่นในการใช้งานของผลิตภัณฑ์ สำหรับกลุ่มลูกค้าวัยสาวจัดเป็นกลุ่มลูกค้าตั้งแต่นักศึกษามหาวิทยาลัยจนถึงสาววัยทำงาน เป็นวัยที่เพื่อน พนักงานขาย และเครื่องหมายการค้ามีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อชุดชั้นใน กลุ่มลูกค้าวัยสาวจะเน้นฟังก์ชั่นในการใช้งานที่สอดคล้องกับแฟชั่นเครื่องแต่งกายภายนอก [ กลุ่มลูกค้าวัยผู้ใหญ่ ] มีพฤติกรรมการเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นชุดชั้นในโดยเน้นฟังก์ชั่นในการใช้งานที่เหมาะสมกับสรีระเป็นหลัก โดยเพื่อน พนักงานขาย และเครื่องหมายการค้ามีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อชุดชั้นใน
กลยุทย์ในธุรกิจขายเสื้อผ้าแฟชั่น ของบริษัทซาบีน่า
การรักษาระดับยอดขายของลูกค้าปัจจุบัน การรักษาระดับยอดขายเสื้อผ้าแฟชั่นของลูกค้าปัจจุบันเป็นเรื่องที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ เนื่องจากบริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าทุกราย ซึ่งจะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพและมีบริการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า โดยสร้างความพึงพอใจต่อลูกค้าด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้า และบริการ เพื่อรักษายอดสั่งผลิตให้มีอยู่อย่างต่อเนื่อง การลดระยะเวลาในการจัดเตรียมวัตถุดิบและการผลิต (Lead Time) บริษัทฯ มีนโยบายในการลด Lead time ในการผลิตชุดชั้นใน เช่น ในขั้นตอนการซื้อวัตถุดิบ บริษัทฯ จะจัดทำ Pre purchase ก่อนจัดทำใบสั่งซื้ออย่างเป็นทางการให้กับผู้จัดจำหน่าย และตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบ ณ แหล่งวัตถุดิบ เพื่อลดระยะเวลาการส่งมอบวัตถุดิบ และลดปริมาณวัตถุดิบที่ไม่ตรงต่อความต้องการของลูกค้า การจัดขั้นตอนการผลิตวัตถุดิบบางส่วนด้วยตนเอง และการซื้อวัตถุดิบสำเร็จรูปเพื่อลดขั้นตอนการผลิต เป็นต้น การลดต้นทุน การลดต้นทุนวัตถุดิบโดยไม่ลดคุณภาพของวัตถุดิบเป็นปัจจัยที่สำคัญมากต่อการแข่งขันกับทั้งคู่แข่ง ภายในประเทศและคู่แข่งจากต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน และประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้การลดต้นทุนช่วยให้บริษัทฯใช้ราคาที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้มากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้จากการขายมากขึ้น บริษัทฯ มีวิธีการลดต้นทุนวัตถุดิบ โดยการหาวัตถุดิบแหล่งใหม่ และการให้ผู้จัดจำหน่ายประกวดราคาขายวัตถุดิบ ดังนี้ การหาวัตถุดิบแหล่งใหม่ ที่มีความหลากหลาย มีคุณภาพดี และมีราคาสมเหตุสมผล เป็นการลดการพึ่งพาผู้จัดจำหน่ายรายใดรายหนึ่ง ป้องกันปัญหากำลังการผลิตของผู้จัดจำหน่ายไม่เพียงพอต่อปริมาณที่บริษัทฯ สั่งซื้อ ป้องกันการผูกขาดด้านราคาของผู้จัดจำหน่าย และช่วยให้บริษัทฯ มีทางเลือกมากขึ้นในการกระจายปริมาณวัตถุดิบที่ต้องการซื้อไปยังผู้จัดจำหน่ายหลายราย นอกจากเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทฯ ว่ามีการพัฒนาทางด้านการจัดหาวัตถุดิบ แล้วยังช่วยเพิ่มความหลากหลาย และทันสมัยให้ผลิตภัณฑ์อีกด้วย การควบคุมคุณภาพการผลิต บริษัทฯ มีมาตรการในการควบคุมการผลิตสินค้าอย่างเข้มงวด โดยในทุกโรงงานจะมีหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิต นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพจากสำนักงานใหญ่ ซึ่งทำการตรวจสอบคุณภาพการผลิต ตั้งแต่การตรวจงานก่อนเริ่มการผลิต (Pre-production) ของสินค้าทุกรหัสจากทุกโรงงานในกลุ่มงานต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดก่อนการผลิต จนถึงการตรวจสินค้าก่อนส่งมอบ (Production Sample) ซึ่งเป็นการตรวจขั้นตอนสุดท้ายหลังจากการผลิตสินค้าเสร็จสิ้นทุกครั้ง ก่อนส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า เพื่อให้แน่ใจได้ว่าสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นที่ผลิตผ่านมาตรฐานสากล และเป็นไปตามคำสั่งผลิต นอกจากนี้ ยังมีการสุ่มตรวจมาตรฐานของโรงงาน (Inspection) ทุกไตรมาส ก่อนการตรวจประจำปีของลูกค้าแต่ละราย เพื่อคงไว้ซึ่งมาตรฐานสากล และความพึงพอใจของลูกค้า
ซาบีน่าเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆ ตอนที่3
[ Moldern Curve by Sabina ] เป็นผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยทำงาน โดยมีความโค้งของเสื้อชั้นในที่รองรับเนินอกได้พอดี ช่วยให้เนินอกดูเนียนเรียบ ป้องกันปัญหาการกดทรง และเป็นชนิดไร้รอยตะเข็บ เพื่อให้ดูสวยเป็นธรรมชาติและสอดคล้องกับแฟชั่นเสื้อเข้ารูปในปัจจุบัน [ Beauty Plus ] เป็นเสื้อชั้นในสำหรับผู้บริโภคที่มีเต้าทรงสวยงามได้รูปทรง มีเนื้อเนินอกที่อวบอิ่ม โดยเสื้อชั้นในถูกออกแบบมาเพื่อโอบเนื้อด้านข้างให้เต้าทรงกลมกลึง เนื้อฟองนุ่ม บาง สวมใส่สบาย นอกจากนั้นยังมีรุ่นที่เป็นลูกไม้เต็มทรง ไม่มีฟองน้ำ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการความเซ็กซี่มากขึ้น [ Viora ] เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นลูกไม้ หรือผ้าที่มีราคาแพง ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ มีดีไซน์ และสีสันที่ค่อนข้างแรง และสะดุดตา มีราคาแพง เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีบุคคลิกมั่นใจในตัวเองสูงในการแต่งตัว (X) ผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นตอบสนองความกระชับสัดส่วนต่อสรีระของผู้หญิง (Functions) :ซึ่งแบ่งออกเป็นแต่ละกลุ่มดังนี้ [ Perfect Fit ] เป็นสินค้าในกลุ่มกระชับรูปร่าง เช่น สเตย์ , สเตย์ชุด, สเตย์แผ่น และอื่นๆ สำหรับผู้หญิงที่ต้องการกระชับสัดส่วนให้มีรูปร่าง และบุคลิกที่ดี (X) Outline เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยกระชับรูปทรง และแก้ไขข้อบกพร่องทางด้านสรีระของผู้สวมใส่ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้บริโภคที่อยู่ในวัยสูงอายุ ที่ต้องการการเก็บทรง เพื่อให้มีบุคลิกภาพที่ดี (X) Maternity เป็นชุดชั้นในสำหรับคุณแม่ ที่สามารถเปิดเต้าสำหรับให้นมบุตรได้ (X) Fill Up Bra เป็นชุดชั้นในสำหรับกลุ่มผู้หญิง ที่ได้รับการผ่าตัดมะเร็งเต้านมแล้ว (X) Sbn Sport เป็นผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าแฟชั่นอินเทรนด์สำหรับผู้ที่มีบุคลิกกระฉับกระเฉง ต้องการความปราดเปรียวและคล่องตัว หรือชอบในการออกกำลังกาย ซึ่งทางบริษัทฯ มีทั้งรูปแบบคล้ายกับการนำไปเล่นกีฬา และมีทั้งชุดชั้นในไว้สำหรับเล่นกีฬาโดยเฉพาะ [ ผลิตภัณฑ์ประเภท กางเกงชั้นใน ] กางเกงชั้นในเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยปกติ บริษัทฯ จะทำการออกแบบกางเกงชั้นในให้สอดคล้องไปกับเสื้อชั้นใน อย่างไรก็ตามพฤติกรรมการใส่กางเกงชั้นในของผู้บริโภคก็มีทั้งความต้องการที่จะใส่เสื้อชั้นในกับกางเกงชั้นในให้เข้าชุดกัน กับ กางเกงในที่เป็นแบบสีพื้นซึ่งทางบริษัทฯ จัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า Panty Zone ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีสีพื้นๆ ที่เป็นมาตรฐาน มีทุกรูปแบบรูปทรง อีกทั้งยังมีกางเกงในอนามัยด้วย [ ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ] ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้แก่ ชั้นในกระชับรูปทรง เช่น เสื้อในตัวยาว และอุปกรณ์ประกอบเสื้อชั้นใน เช่น สายแขน ชิ้นเสริมทรง อุปกรณ์ต่อลำตัว เป็นต้น บริษัทฯ ผลิตสินค้าประเภทนี้เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้แก่ลูกค้าได้เลือกสรร ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้าซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศ (OEM) บริษัทฯ มีการผลิตและจำหน่ายสินค้า OEM ตามลักษณะที่ลูกค้าต้องการ ทั้งนี้รูปแบบของสินค้าที่ผลิตและจำหน่าย ส่วนหนึ่งมาจากต้นแบบที่บริษัทฯ และบริษัทย่อยเป็นผู้ออกแบบไว้ แล้วนำไปปรับปรุงแบบในบางส่วน ตามความต้องการของลูกค้า หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 30 ของปริมาณสินค้า OEM ทั้งหมด ในปัจจุบันมีการทำงานใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นโดยทางผู้ออกแบบของลูกค้าจะเดินทางมาร่วมออกแบบกับทางผู้ออกแบบของบริษัทฯ มีการแนะนำแนวทาง Trend Color Mood and Tone ของแต่ละฤดูกาล ก่อนที่จะเริ่มพัฒนาเป็นตัวอย่างสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆ อีกทั้งยังมีการพัฒนาร่วมกันกับผู้ขายลูกไม้ ผ้า และรวมทั้งลวดลายและสีสรรต่างๆกับทาง Suppliers วัตถุดิบอีกด้วย
ซาบีน่าเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆ ตอนที่2
Cool Teen เป็นผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าแฟชั่น สำหรับเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 13-15 ปี ผลิตภัณฑ์ยังเป็นเสื้อชั้นในที่เหมาะสำหรับเด็กที่เริ่มมีเต้าทรงมากยิ่งขึ้น มีรูปแบบทั้งที่ไม่มีการนำโครงเหล็กเข้ามาเป็นส่วนประกอบ โดยมีสายแขนต่อ และตะขอ เหมือนกับเสื้อชั้นในทั่วๆ ไป เพียงแต่ลักษณะเต้าทรงยังเป็นเต้าทรงที่ยังไม่โตเต็มที่ และนำโครงเหล็กมาเป็นส่วนประกอบ แต่จะมีลักษณะเป็นโครงนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กที่เริ่มต้องการที่จะใส่เสื้อชั้นในแบบมีโครง อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ก็ยังเน้นการออกแบบที่ดูน่ารักเหมาะสมกับวัย (X) ผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของตลาดวัยรุ่น หรือช่วงอายุประมาณ 16-25 ปี เป็นเสื้อในสำหรับเด็กผู้หญิงที่เริ่มมีเต้าทรงเต็มที่ ได้แก่ (X) Pretty Perfect เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับวัยรุ่นตอนต้น หรือมัธยมปลาย อายุประมาณ 16-18 ปี เป็นวัยที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงสรีระจากวัยเด็กมาสู่วัยรุ่น ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้มีโครงเหล็กเป็นส่วนประกอบ สำหรับเด็กวัยรุ่นที่มีเต้าทรงเต็มที่ เพื่อรองรับการจัดสรีระให้สวยงามและถูกต้อง อย่างไรก็ตาม การออกแบบสินค้ายังคงต้องเน้นดีไซน์ที่ความน่ารักแบบวัยรุ่น (X) Doomm Series เป็นกลุ่มบราดันทรงที่เหมาะสำหรับวัยรุ่น หรือวัยทำงานที่มีหน้าอกน้อย และต้องการบราที่ช่วยทำให้เสริมสร้างบุคคลิกภาพ ให้ดูดียิ่งขึ้น ซึ่งประกอบด้วย Collection ย่อยดังนี้ (X) Doomm Doomm เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีหน้าอกน้อยมาก และต้องการบราที่สามารถช่วยเสริมสร้างบุคคลิกภาพให้ดูดียิ่งขึ้น ภายใต้สโลแกนว่า “ขยับคัพ ปรับทรงขึ้นอีกขั้น” (X) Soft Doomm เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่จากการวิจัย และพัฒนาโดยทีมงานวิจัยและพัฒนาของทางบริษัท ซึ่งได้มีการออกจำหน่าย และเปิดตัว เมื่อกลางปี 2552 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีหน้าอกน้อย และเห็นว่า Doomm Doomm นั้นมีขนาดฟองน้ำดันทรงมากเกินไป ก็สามารถมาใช้กลุ่มนี้ได้ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในเรื่องฟองนิ่มเป็นอย่างมาก ภายใต้สโลแกนเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆว่า “ Soft Doomm ดูมกำลังสวย นุ่มสบายกำลังดี” (X) Why Wire เป็นบราดันทรงเช่นกัน แต่ไม่มีโครงเหล็กมาเป็นส่วนประกอบ เหมาะสำหรับสาวคัพเล็กที่ต้องการดันทรงมากขึ้น แต่ไม่ชอบโครง (X) Doomm 7 Ways เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ Doomm Doomm ที่ทำเป็นลักษณะครึ่งคัพ สามารถปรับเปลี่ยนสายแขนได้ถึง 7 แบบ (X) Maggie May เป็นบราที่มีฟองน้ำค่อนข้างบาง ถึงไม่มีฟองน้ำมาซับบริเวณเต้าทรง เหมาะสำหรับเด็กวัยรุ่นที่มีเต้าทรงค่อนข้างมาก และมีความมั่นใจในตนเองสูง โดยมีสีสรรที่ค่อนข้างฉุดฉาด (X) ผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของตลาดวัยสาว หรือช่วงอายุ 25-50 ปี ได้แก่ (X) Difference เป็นกลุ่มบราที่เหมาะสำหรับวัยสาว ที่มีหน้าอกในรูปแบบต่างๆ กัน และรักในลูกไม้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจะใช้ลูกไม้มาเป็นส่วนประกอบหลักๆ เหมาะสำหรับผู้ที่พอมีเต้าทรงบ้าง มีการปรับแพทเทิร์น ให้รองรับกับหน้าอกได้พอดี เมื่อใส่แล้วจะดูสวยงามได้สัดส่วน และยังมีฟองน้ำไว้สำหรับหนุนในกรณีที่ต้องการให้ดันทรงมากยิ่งขึ้น
เสื้อแฟชั่นกับสตรีอิหร่าน
ภายหลังจากที่ประเทศอิหร่านได้มีการเปลี่ยนแปลง ระบอบการปกครองเมื่อปี 2521 อิหร่านได้ใช้ระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐอิสลามเข้ามาบริหารประเทศ โดยรัฐบาลอิหร่านได้ออกกฎหมายให้สตรีชาวอิหร่านทุกคนสวมเสื้อผ้าแฟชั่นตามหลักการศาสนาที่เรียกว่าฮิญาบ (Hejab) อย่างมิดชิดเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณชน การแต่งกายของสตรีมุสลิมตามหลักการศาสนาที่เรียกว่าฮิญาบ (Hejab) เป็นข้อปฏิบัติของสตรีมุสลิมทุกคน โดยมีหลักการทั่วไปว่า สตรีมุสลิมผู้บรรลุนิติภาวะ (อายุ 9 ปีขึ้นไป) ต้องสวมใส่เครื่องแต่งกายอย่างมิดชิดเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณชน โดยอนุญาตให้เปิดเผยได้เฉพาะส่วนคือใบหน้าและฝ่ามือเท่านั้น สำหรับการแต่งกายของสตรีมุสลิมในประเทศมุสลิมที่ใช้การปกครองตามหลักการอิสลามจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสังคม รสนิยม วัฒนธรรม และประเพณี ตลอดจนนโยบายของแต่ละประเทศ ซึ่งสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน เช่นประเทศในภูมิภาคเอเซียตะวันออกกลางนิยมสวมเครื่องแต่งกายสีดำและสีโทนเข้ม ในขณะที่ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน ฯลฯ นิยมสวมเครื่องแต่งกายเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆสีฉูดฉาดและหลายหลากสี [ การแต่งกายของสตรีชาวอิหร่าน ] รัฐบาลอิหร่านสนับสนุนให้สตรีชาวอิหร่านสวมใส่ฮิญาบ (Hejab) ที่เป็นชุดประจำชาติที่เรียกว่าชาโดร (Chador) ซึ่งเป็นผ้าคลุมครึ่งวงกลมสีดำยาวไม่มีแขน และสไตล์ใหม่เป็นแบบมีแขนคล้ายชุดคลุมยาวทั่วไป โดยจะสวมใส่ทับบนเครื่องแต่งกายอีกชั้น แต่ไม่เป็นการบังคับใครจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ โดยทั่วไปสตรีชาวอิหร่านจะแต่งกายด้วยชุดที่เรียบร้อย สีไม่ฉูดฉาด โดยเฉพาะในสถานที่ราชการ ผู้หญิงจะต้องสวม "มอนโต" หรือเสื้อคลุมยาวเลยเข่าเล็กน้อยหรือเสื้อคลุมยาวถึงตาตุ่มแขนเสื้อยาว และสวม "มักนาเอ่ะ" ซึ่งมีลักษณะคล้ายผ้าพันคอที่เย็บติดด้านหน้าซึ่งคลุมตั้งแต่ศรีษะถึงหัวไหล่ โดยทั้งสองชุดนี้ต้องมีสีเข้มไม่ฉูดฉาด อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน สตรีชาวอิหร่านเริ่มหันมาให้ความสนใจกับแฟชั่นเสื้อคลุมที่จะสวมใส่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีที่มีฐานะและผู้ที่มีฐานะทางสังคมในกรุงเตหะราน โดยสตรีอิหร่านจะสวมเสื้อคลุม "มอนโท" ที่มีสีสันหลากหลายมากขึ้น และมีแบบหรือสไตล์ต่างๆ ที่สวยงาม ทั้งนี้จะใช้ผ้าพันหรือผ้าโผกศรีษะที่มีสีสรร เพื่อให้เข้ากับชุดที่ใส่ นอกจากนี้ สตรีที่มีฐานะและกลุ่มวัยรุ่นสตรีในกรุงเตหะรานมักนิยมแต่งหน้าให้สวยงาม เช่น ทาลิปสติก ทาเล็บ ย้อมผมและใช้เครื่องสำอาง ในสถานที่สาธารณชน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมอิหร่านเท่าไรนัก นอกจากนี้ แบบหรือสไตล์การแต่งกายของกลุ่มวัยรุ่นสตรีอิหร่านและ กลุ่มนักศึกษาจะเริ่มเน้นความนำสมัยเป็นหลัก โดยจะโผกผ้าพันศรีษะที่เผยให้เห็นผมบ้างบางส่วน และใส่เสื้อคลุมแขนยาวสามส่วน นอกจากนี้สตรีอิหร่านส่วนมากร้อยละ 96 นิยมนุ่งกางเกงยีนส์ที่ทันสมัย สวมกับเสื้อคลุมยาวไม่ว่าจะเป็นแบบที่ยาวถึงหัวเข่า หรือเสื้อคลุมแบบยาวถึงตาตุ่ม มีสตรีอิหร่านน้อยมากที่นุ่งกระโปรงกับเสื้อคลุม ซึ่งต่างจากสตรีชาวตุรกี มาเลเซีย และประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ สตรีชาวอิหร่านนิยมสวมรองเท้าที่มีรูปแบบทันสมัยเสื้อผ้าแฟชั่นอินเทรนด์อีกด้วย
ซาบีน่าขายเสื้อผ้าแฟชั่นชุดชั้นใน
[ รูปแบบเสื้อผ้าแฟชั่นชุดชั้นใน ] บริษัทฯ และบริษัทย่อย ออกแบบ ผลิต และจำหน่ายสินค้าชุดชั้นในสตรี ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทย่อย คือ “Sabina” ซึ่งมีกลุ่มสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงอายุ และในทุกรูปทรง ตั้งแต่ สินค้าสำหรับเด็ก วัยรุ่น วัยสาว วัยผู้ใหญ่ ตลอดจนสินค้าจำพวกกระชับสัดส่วน จำพวกสเตย์ สเตย์ชุด และอื่นๆ สำหรับชุดชั้นในสตรี โดยทางบริษัทได้แบ่ง Collection ตามกลุ่มสินค้าหลาย Collection เช่น “Sabinie” ”Cool Teen” “Pretty Perfect” “Moldern Curve by Sabina” “Doomm Doomm” “Soft Doomm” “Viora” “ Gossip Bra by Sabina ” และ อีกหลายๆ Collection รวมทั้ง Collection ใหม่ ซึ่งออกขายในปี 2554 ที่ผ่านมาโดยการนำมารวมกับ Collection “Doomm Doomm และ Soft Doomm “ โดยใช้ชื่อว่า “ Doomm Series” ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังออกแบบ ผลิต และจำหน่ายชุดชั้นในสตรีให้แก่ ลูกค้าซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้ายอดนิยมใน ยุโรป ในส่วนของผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า Sabina มีจุดเด่นอยู่ที่มีสีสันและดีไซน์ที่ทันสมัย มีฟังก์ชั่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้หญิงยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับชุดชั้นในที่มีดีไซน์ ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยแก้ไขข้อบกพร่องทางสรีระ หรือเสริมบุคลิก การแต่งกายให้สวยงามตามแฟชั่นได้ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้ (X) ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตและจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทย่อย โดยผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทย่อย สามารถแบ่งได้ออกเป็น 3 ประเภทย่อย ดังนี้ (X) ผลิตภัณฑ์ประเภท เสื้อชั้นใน ผลิตภัณฑ์เสื้อชั้นในทางบริษัทฯ ยังคงเน้นในการออกแบบชุดชั้นในเพื่อเสริมบุคลิกภาพ และความมั่นใจให้กับผู้สวมใส่ ซึ่งปัจจุบัน รูปแบบเสื้อชั้นในมีความหลากหลายเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี มากยิ่งขึ้นซึ่งสามารถแบ่งเสื้อชั้นในออกเป็นประเภทต่างๆ ตามรูปทรงของเสื้อชั้นในได้แก่ เสื้อชั้นในเต้าครึ่งทรง เสื้อชั้นในเต้าเต็มทรง เสื้อชั้นในมีฐานทรง เสื้อชั้นในไม่มีฐานทรง เสื้อชั้นในดันทรง รวมถึงเสื้อชั้นในที่มีรูปแบบตามสมัยนิยม เช่น เสื้อชั้นในเกาะอก เป็นต้น ซึ่งนอกจากรูปทรงที่เหมาะสมแล้ว ปัจจุบันผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับแฟชั่นของชุดชั้นในมากยิ่งขึ้นด้วย ปัจจุบันบริษัทฯ แบ่งเสื้อชั้นในตามช่วงอายุได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ ดังนี้ (1) ผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของตลาดวัยเด็ก กล่าวคือเป็นเสื้อชั้นในที่เริ่มตั้งแต่เด็กยังไม่มีเต้าทรง จนถึงเริ่มมีเต้าทรงที่เด่นชัดมากขึ้น ได้แก่ (X) Sabinie เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 7-12 ปี โดยใช้ตัวการ์ตูนเด็กผู้หญิงที่ชื่อว่า “Sabinie” มาเป็นสัญลักษณ์ และส่วนประกอบในการตกแต่งเสื้อชั้นใน โดยจะเน้นให้ตัวการ์ตูนไปทำกิจกรรมที่ให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่เด็กๆ เช่น Sabine Collection Musical ซึ่งจะเป็นตัวการ์ตูนซาบีน่าที่ทำกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการสอนให้เด็กรู้จักดนตรี ซึ่งมีหลากหลายประเภท Collection ที่ออกมาในแต่ละปี มีตั้งแต่แบบสวมหัวสำหรับเด็กผู้หญิงที่เริ่มต้องการใส่เสื้อชั้นใน และเสื้อในเหมือนเสื้อชั้นในทั่วไป แต่ไม่มีโครงเหล็กมาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กผู้หญิงที่เริ่มมีเต้าทรง จนถึงมีเต้าทรงบ้างเล็กน้อย โดยสินค้าจะเน้นวัตถุดิบที่มีคุณภาพดี ไม่ระคายผิวกับผู้สวมใส่ และจะใช้สีขาวเป็นหลัก สำหรับเด็กสามารถใส่ไปโรงเรียนได้ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมขายเสื้อผ้าแฟชั่นและยอมรับกันอย่างแพร่หลาย
รายงานข้อมูลการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆชุดทำงาน ตอนที่1
ผู้บริโภคที่เลือกซื้อประเภทเครื่องนุ่งห่มเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆ ในห้างสรรพสินค้า ประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าชุดทำงานมากที่สุดคือ คุณภาพของสินค้าร้อยละ 23 รองลงมาคือ ความสวยงาม รูปแบบ ความทันสมัยของสินค้าร้อยละ 22 ความเหมาะสมต่อบุคลิกภาพร้อยละ 15 ความเหมาะสมของราคาร้อยละ 14 ความจำเป็นในการใช้งานร้อยละ 10 การลดราคาสินค้าร้อยละ 9 ความมีชื่อเสียงของสินค้า ร้อยละ 4 ความสะดวกในการเลือกซื้อร้อยละ 3 การจัดให้มีของแถมหรือแลกซื้อสินค้า มีจำนวนที่เท่ากันคือ ร้อยละ 1 การร่วมรายการชิงโชคและ อื่นๆ มีจำนวนเท่ากันคือร้อยละ 0 สำหรับผู้บริโภคที่เลือกอื่นๆ โดย ตลาดนัดร้อยละ 1 และที่ห้างสรรพสินค้าร้อยละ 0 พบว่า ผู้บริโภคไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นใดเป็นพิเศษ พฤติกรรมของผู้บริโภคในการเลือกซื้อเสื้อผ้าชุดทำงานต่อการส่งเสริมการขาย จำแนกตามลักษณะตลาดที่ผู้บริโภคเลือกซื้อ พบว่า ผู้บริโภคที่เลือกซื้อประเภทเครื่องนุ่งห่มในตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญต่อการลดราคาสินค้าคิดเป็นร้อยละ 51 รองลงมาคือ การให้สิทธิ์ในการแลกซื้อสินค้าในราคาที่ถูกกว่าปกติร้อยละ 19 การให้ของแถมเมื่อซื้อครบตามยอดที่กำหนดร้อยละ 18 การมีรายการชิงโชคร้อยละ 6 การโฆษณาตามขนส่งมวลชนต่างๆ ร้อยละ 5 และอื่นๆ ร้อยละ 1 ผู้บริโภคที่เลือกซื้อประเภทเครื่องนุ่งห่มในตลาดห้างสรรพสินค้า โดยส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญต่อการลดราคาสินค้าคิดเป็นร้อยละ 53 รองลงมาคือ การให้ของแถมเมื่อซื้อครบตามยอดที่กำหนด และการให้สิทธิ์ในการแลกซื้อสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นในราคาที่ถูกกว่าปกติมีจำนวนที่เท่ากันคือ ร้อยละ 17 การมีรายการชิงโชคและการโฆษณาตามขนส่งมวลชนต่างๆ มีจำนวนที่เท่ากันคือ ร้อยร้อยละ 6 และอื่นๆ ร้อยละ 1 สำหรับผู้บริโภคที่เลือกอื่นๆ โดยที่ตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ตมีจำนวนร้อยละ 1 และที่ห้างสรรพสินค้าร้อยละ 1 ซึ่งจากการสำรวจจากทั้ง 2 ตลาดนี้ พบว่า ผู้บริโภคไม่ได้ให้ความสำคัญหรือการส่งเสริมการขาย แต่จะขึ้นอยู่กับความชอบหรือความพึงพอใจโดยส่วนตัวของผู้บริโภคในแต่ละครั้งที่ซื้อ
สิ่งทอเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆในฮังการีตอนที่4
พฤติกรรม และ แรงจูงใจ ในการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในฮังการี และยุโรป บริษัทวิจัยตลาด GFK ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าในประเทศต่างๆ เพื่อศึกษาว่าอะไรคือแรงจูงใจก่อนการตัดสินใจซื้อ ผลการสำรวจประชากรจำนวน 20000 คนจาก 20 ประเทศ ตอบคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการแต่งตัว ร้อยละ 83 ให้เหตุผลในการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นเพราะความจำเป็น รองลงมาร้อยละ 73 เพราะการจัดโปรโมชั่น (ส่วนใหญ่จาก เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และตุรกี) ร้อยละ 54 ซื้อเพราะเป็นความสุข ที่มาของสินค้ามีความสำคัญร้อยละ 52 และมีเพียงร้อยละ 38 เท่านั้นที่คำนึงถึงแฟชั่นล่าสุดเป็นปัจจัยในการซื้อ การมีแนวทางการทำงานที่หลากหลาย คือการสั่งสมประสบการณ์ต่อสาขาวิชาชีพนั้นๆ อย่างไรก็ตาม “ราคา” ยังคงเป็นเรื่องที่อ่อนไหว ต่อการตอบสนองของประชาชนส่วนใหญ่ ดังนั้น ผู้ซื้อจึงเลือกซื้อสินค้าราคาถูกจากผู้จำหน่ายที่ตลาดจีน เพื่อเพิ่มปริมาณการซื้อได้มากขึ้น สำหรับกลุ่มผู้ซื้อที่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องราคา แต่เครื่องแต่งกายตามสมัยแฟชั่นล่าสุด กลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นชาวเมืองที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายเกินรายได้ และกลุ่มนักธุรกิจหนุ่มสาว หรือวัยกลางคน จากสถิติล่าสุดปี 2553 การซื้อเครื่องแต่งกายของผู้บริโภค ลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ระหว่างคู่แข่งขันตลาดขายเสื้อผ้าแฟชั่นเครื่องแต่งกาย ห้างสรรพสินค้า บริษัทสิ่งทอในเครือข้ามชาติที่ทำการลดราคา และร้านค้าจากเอเชียตะวันออก มีผลการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้น
สิ่งทอเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆในฮังการีตอนที่3
[ ช่องทางการนำสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นเครื่องแต่งกายสู่ผู้บริโภค ] ตัวแทนจำหน่าย (Agent) (X) ได้รับข้อเสนอจากซัพพลายเออร์ต่างชาติ และดำเนินการขายสินค้าตามข้อสัญญาทางธุรกิจ (X) ผู้นำเข้าหรือผู้ค้าส่ง (Importer or wholesaler) ช่องทางนี้เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ความแตกต่างระหว่างทั้งสองคือ ผู้ค้าส่งซื้อสินค้าโดยตรงจากซัพพลายเออร์ในประเทศ ขณะที่ผู้นำเข้ามีหุ้นส่วนทางธุรกิจในต่างประเทศ การทำงานของผู้ค้าส่ง โดยปกติแล้วจะทำตัวอย่างส่งไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หลังจากนั้นลูกค้าจะมาเยี่ยมชมที่คลังสินค้า และทำการซื้อขายสินค้า การทำงานของผู้นำเข้าและค้าส่ง มีการจ้างนักท่องเที่ยวให้นำสินค้าที่หลากหลายจากแหล่งผลิต มาเสนอขายแก่พวกเขาเหล่านั้น (X) ผู้ผลิต (Makers/producers) โดยปกติแล้ว จะมีร้านขายส่งหรือร้านขายสินค้าจากโรงงานของตัวเอง ซึ่งก็คือคลังสินค้าที่ประกอบด้วยร้านขายปลีกขนาดใหญ่ 2-3 แห่ง (X) ผู้ค้าส่งหลายรายจะร่วมทำธุรกิจเฉพาะกับตัวแทนจำหน่ายแห่งภูมิภาคเท่านั้น (X) ปัจจัยในการตัดสินใจซื้อ “ราคา การออกแบบ คุณภาพ ความพึงพอใจ และรสนิยม” [ ราคา ] มีการแข่งขันที่รุนแรงมากในตลาดเครื่องแต่งกาย จึงไม่มีบริษัทที่ผูกขาดการครองตลาด ดังนั้น ราคา จึงขึ้นอยู่กับข้อเสนอและปริมาณที่ต้องการซื้อ โดยปกติแล้ว ข้อเสนอมักเกินกว่าความต้องการสินค้า รวมถึงความเป็นไปได้ในการนำเข้าอย่างเสรีจากประเทศในเขตอียู [ การออกแบบ] คุณภาพ ความพึงพอใจ และรสนิยม มีความแตกต่างอยู่สองแนวทาง แบบแรกคือ แนวอนุรักษ์นิยม (เกือบทั้งหมดเป็นลักษณะเฉพาะของผู้ผลิตจากเยอรมนี) แบบที่สองคือ แนวหนุ่มสาว (เป็นลักษณะของผู้ผลิตจากอิตาลี และ ฝรั่งเศส) ในแนวอนุรักษ์นิยมจะใช้วิธีผลิตสินค้าเป็นปริมาณมาก และตั้งราคาในระดับปานกลาง ส่วนในแนวหลังจะผลิตสินค้าจำนวนน้อย แต่ตั้งราคาที่สูงกว่า [ประเทศคู่แข่งขัน ] (X) จีน คือคู่แข่งขันที่ใหญ่สุด การออกแบบ และคุณภาพสินค้าต่ำ แต่ราคาถูกมาก เสื้อผ้าแฟชั่นราคาถูก (X) ตุรกี สินค้ามีคุณภาพดีกว่า และผลิตจำนวนน้อยกว่าจีน จึงเหมาะสมสำหรับการส่งออก (X) สมาชิกอียู เช่น อิตาลี สเปน มีข้อได้เปรียบในการขยายระยะเวลาการจ่ายเงิน (long term credits) แก่ลูกค้าที่มีศักยภาพ (ตามข้อมูลบริษัทประกันภัยสินเชื่อในประเทศนั้นๆ) ซึ่งต่างจากผู้ส่งออกของไทยที่ไม่สามารถเสนอเงื่อนไขนี้ได้
สิ่งทอเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆในฮังการีตอนที่2
[ สถานการณ์ของบริษัทฮังการี ในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายเสื้อผ้าแฟชั่น ] ลักษณะเฉพาะของธุรกิจในฮังการี จะประกอบด้วยผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมาก และผู้บริหารกิจการส่วนบุคคล จำนวนบริษัทที่จดทะเบียนในสาขานี้มีมากกว่า 7000 ราย บริษัทที่ว่าจ้างพนักงานมากกว่า 20 คนในอุตสาหกรรมสิ่งทอมีจำนวน 178 แห่ง และในอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายมีจำนวน 293 แห่ง สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ เช่น ลูกค้าหรือกลุ่มผู้รับสินค้า ประเภทหรือลักษณะของบริษัทในเครือ ตำแหน่งทางการตลาด และความสามารถในการสร้างสรรค์ของบริษัทที่จะปรับตัว และแก้ไขปัญหาต่อภาวะการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว สามารถกล่าวได้ว่า ปัจจุบันนี้ อุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายเป็นสาขาที่มีการแข่งขันทั่วโลกสูงสุด และมีปริมาณเกินความต้องการของตลาด มีผลกำไรต่ำสุดเมื่อเปรียบเทียบมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นจากตัวสินค้า การเพิ่มมูลค่าให้ตัวสินค้านั้น ต้องมาจากการออกแบบ การพัฒนาสินค้า และการทำตลาด ในตลาดเครื่องแต่งกายฮังการี ประกอบด้วยบริษัทผู้ผลิตสิ่งทอจำนวนน้อย แต่ผู้ผลิตเครื่องแต่งกายมีจำนวนมาก ผู้ผลิตสิ่งทอต้องประสบกับปัญหาสองด้านคือ การแข่งขันกับสินค้านำเข้าราคาถูก และการปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น ในสาขาเครื่องแต่งกาย บริษัทขนาดกลางและใหญ่ ซึ่งมีพนักงานมากกว่า 100 คน ต่างเป็นบริษัทในเครือของบริษัทข้ามชาติทั้งสิ้น บริษัทขนาดเล็ก (มีพนักงาน 50-100 คน) ไม่มีสายป่านยาว ทำงานด้วยนักออกแบบของตนเอง และสร้างคอลเลคชั่นตามฤดูกาล ณ ปัจจุบัน บริษัทส่วนใหญ่ผันตัวเองไปเป็นเพียงซัพพลายเออร์ ผลิตสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆให้กับบริษัทขนาดใหญ่ เพราะเป็นวิถีทางที่จะช่วยให้กิจการขนาดเล็กสามารถอยู่รอดได้ [ การตลาด ] การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีความสำคัญและส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการค้าเช่นกัน รูปแบบบริษัทในเครือที่สืบต่อกันยาวนานทั้งค้าปลีกและค้าส่ง ต่างสูญหายหรือต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ แม้กระทั่งธุรกิจส่วนตัวของนักลงทุนต่างชาติ (เช่นบริษัทของออสเตรีย Kleider Bauer ) ก็ต้องล้มเลิกกิจการ การทำธุรกิจมีทั้งความเสี่ยงในด้านปัญหาภาษีศุลกากร ตามกระแสสินค้านำเข้าจากกลุ่มสหภาพยุโรป และปัญหาสินค้าราคาถูกจากประเทศจีน ทั้งหมดนี้ ไม่เพียงแต่มีผลกระทบต่อราคาสินค้าตามห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ตลาดรวม ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทค้าปลีกในเครือที่มีชื่อเสียงมากมาย เข้ามาทำตลาดในฮังการี เช่น สะวิสเซอร์แลนด์ , สะวีเดน , เยอรมนี และ Zara สเปน
สิ่งทอเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆในฮังการี
อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าแฟชั่นในยุโรป ต้องประสบปัญหาทางด้านการแข่งขันจากประเทศที่มีค่าแรงงานต่ำตั้งแต่ปี 2513 เป็นต้นมา และเมื่อหลังปี 2538 ปัญหาก็เริ่มรุนแรงขึ้น หลังจากการยกเลิกระบบโควต้าอย่างต่อเนื่อง ตัวการสำคัญที่เร่งให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น เมื่อประเทศจีนเข้าร่วมเป็นสมาชิก WTO ในปี 2545 และโควต้าสุดท้ายได้ถูกยกเลิกไปเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2551 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายในยุโรป ต่างยอมรับเงื่อนไขของการเปลี่ยนแปลงตามกระแสโลกาภิวัตน์ จนกลายเป็นข้อได้เปรียบและโนว์ฮาวของอุตสาหกรรมในเวลาต่อมา ฐานการผลิตสินค้าจะถูกจัดตั้งขึ้นในประเทศที่มีค่าจ้างแรงงานต่ำ ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพการผลิตและมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนเพิ่มอัตราการจ้างงานให้สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในปี 2551 ผลผลิตของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายในสหภาพยุโรปสูงถึง 200 พันล้านยูโร ด้วยจำนวน 147000 บริษัท และอัตราการจ้างงานถึง 2จุด3 ล้านคน อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆฮังการีขึ้นอยู่กับตลาดยุโรปเป็นส่วนใหญ่ ด้วยอัตราร้อยละ70 ของการผลิต ในฮังการี อุตสาหกรรมนี้มีการสูญเสียอย่างหนักในช่วงระยะ 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนับว่ามากกว่าประเทศส่วนใหญ่ในสหภาพยุโรป หนึ่งในเหตุผลหลักก็คือ สาขานี้ไม่สามารถตอบรับ หรือแก้ไขสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้ กล่าวคือ สูญเสียเสรีภาพจากตลาดภายในประเทศ และความล้มเหลวในตลาดยุโรปตะวันออก ระหว่างช่วงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ สาขานี้สร้างความน่าสนใจต่อการลงทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การลงทุนส่วนใหญ่จะเน้นไปทางด้านเทคนิคและเทคโนโลยีเป็นจำนวนมาก ปัญหาดังกล่าวมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอมากกว่าเครื่องแต่งกาย เพราะตั้งแต่วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า การลงทุนของอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายจึงลดลง จากข้อมูลสถาบันสถิติ KSH ในปี 2551 ผลผลิตของอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกายฮังการี คือ 201 พันล้านโฟรินท์ (ประมาณ 750 ล้านยูโร) เป็นของอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายร้อยละ 56 และสิ่งทอร้อยละ 44 การส่งออกสร้างเม็ดเงินได้ 146 พันล้านโฟรินท์ (ประมาณ 540 ล้านยูโร) คิดเป็นร้อยละ 73 ของผลผลิตทั้งหมด มีการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 50000 คน และเป็นพนักงานสตรีมากกว่าร้อยละ 80 การจัดกลุ่มแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องแต่งกาย (โดยทั่วไปแล้วเป็นที่ยอมรับและใช้ในวงการสถิติการวิเคราะห์ทางภาคอุตสาหกรรม และแผนพัฒนาทางเทคโนโลยี) ส่วนการจัดกลุ่มอื่นๆ ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้งานของสาขา เช่น สาขาเครื่องแต่งกาย และสิ่งทอในครัวเรือน เน้นการถ่ายทอดวัฒนธรรมและประเพณี ผ่านทางศิลปะความงามซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะของสินค้าเป็นสำคัญ สาขาเทคนิคสิ่งทอ เปรียบเสมือนสายงานใหม่ที่กำเนิดขึ้นตั้งแต่ปี 2513 และเป็นสาขาที่เติบโตมากที่สุดในส่วนของอุตสาหกรรมสิ่งทอ สาขาเทคนิคสิ่งทอเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 26 ในปี 2546 เป็นร้อยละ 30 ในปี 2551 ขณะที่สาขาสิ่งทอในครัวเรือนไม่มีการเปลี่ยนแปลง และสาขาเสื้อผ้าแฟชั่นอินเทรนด์ลดลงร้อยละ 4 ในช่วงเวลาเดียวกัน
อุตสาหกรรมขายเสื้อผ้าแฟชั่นในฮ่องกง
อุตสาหกรรมเสื้อผ้าแฟชั่นเป็นสินค้าหลักที่ทำรายได้ให้ฮ่องกงรายได้โดยรวมในปี 2003 จำนวน 35.91พันล้านเหรียญฮ่องกง ในปี 2005 ถึงปัจจุบัน ( มิย 2548 ) มีโรงงานผลิตประมาณ 1674โรง คนงานจำนวน 28752คน ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2005 มีปริมาณการส่งออกที่ผลิตภายในประเทศประมาณ 40% โรงงานผลิตเสื้อผ้าของฮ่องกงส่วนใหญ่จะอยู่ในต่างประเทศ เหตุผลเพื่อลดต้นทุนในการผลิต ฮ่องกงไม่ใช่เป็นผู้นำด้านการผลิตอย่างเดียว แต่เป็นจุดศูนย์กลางของแหล่งที่มาของเสื้อผ้าจากทั่วโลก นักธุรกิจที่ทำเสื้อผ้าในฮ่องกงมีประสบการณ์ในการเลือกซื้อผ้า ขาย และการตลาด ตลอดจนคุณภาพสินค้าและการขนส่ง รวมทั้งการออกแบบเสื้อผ้าและรู้กฎ ระเบียบทางด้านการค้าต่างประเทศ ช่วง 11 เดือนแรกของปี 2005 ฮ่องกงมีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น 9% ขณะที่ re-exports เพิ่มขึ้น 20% และการส่งออกที่ผลิตภายในลดลง 14% ตรงกันข้ามฮ่องกง re-exports และการผลิตภายในประเทศ เป็นการเพิ่มขึ้นจากโรงงานที่ย้ายไปอยู่ที่จีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้มีการโยกย้ายโควตา ภายใต้ข้อตกลงของ WTO(Agreement on Textiles and Clothing(ATC) ฮ่องกงมีปริมาณการส่งออกไปสหภาพยุโรป(EU) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปีที่แล้วเพิ่มขึ้น18% โดยส่งออกไปที่ฝรั่งเศส เยอรมัน และอิตาลี ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2005 ฮ่องกงมีตัวเลขการส่งออก woven wear เพิ่มขึ้น 12% เสื้อผ้าสตรี/เด็กผู้หญิงเพิ่มขึ้น 13% สำหรับเสื้อผู้ชายและเด็กเพิ่มขึ้น 8% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วน Knitted wear ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น 2% และเสื้อผ้าสตรี/เด็ก และเสื้อผ้าผู้ชาย/เด็กเพิ่มขึ้น 1 % และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6% ขณะที่เครื่องประดับประกอบเสื้อผ้าปริมาณการส่งออกลดลง 3% และอื่นๆ เพิ่มขึ้น 13% [ช่องทางการจำหน่าย] ผู้ผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆในฮ่องกงมีความสัมพันธ์ และยังมีความเข้าใจลูกค้า และเป็นจุดรวมของแหล่งต่างๆ เนื่องจากความเข้าใจและรู้กฎระเบียบการค้าเกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกสินค้าประเภทเสื้อผ้าและสิ่งทอ เช่น แหล่งกำเนิดสินค้า โควตา ภาษี และเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นประกอบการส่งออกและนำเข้า ตลอดจนการพัฒนาด้านการออกแบบ เพื่อปรับปรุงสินค้าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพขณะที่เป็นศูนย์กลางแหล่งกำเนิดเสื้อผ้า ที่มีจำนวนผู้ค้าจากหลายประเทศ ตลอดจนงานแสดงสินค้าและนิทรรศการสำหรับการพบปะระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายจากทั่วโลก เช่นงาน Hong Kong Fashion Week ที่จัดปีละ 2 ครั้ง(กลางเดือนมกราคม/กรกฎาคม) และงาน World Boutique จัดขึ้นสำหรับส่งเสริมนักออกแบบเสื้อผ้าและ Brand จากแฟชั่นทั่วโลก [ แนวโน้มของภาคอุตสาหกรรม] ผู้ค้าปลีกในฮ่องกงมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ของสินค้า และสินค้า brand name ที่มีความต้องการและมีความสนใจของตลาดภายในประเทศจีน เช่น เสื้อผ้าชุดลำลองที่ได้รับความสนใจสูงจากตลาดจีน Formal Dressing เป็นแนวแฟชั่นที่ยังคงความต้องการสูง โดยเฉพาะเสื้อผ้าประเภท เสื้อสูท รวมทั้งเสื้อผ้า cotton ระหว่างสิ้นปี 2547 และต้นปี 2548 มีปริมาณสูง38.5%รับความนิยมจากผู้ทำงานและเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาปริมาณเพิ่มขึ้น6.6% Teenagerเป็นแฟชั่นที่รับความนิยมสูงในปีต่อไป(2006)จำนวนวัยรุ่นของสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มขึ้นจากปี 2001 เพิ่มสูงถึง31.7คาดว่าในปี 2010 ถึง 35.1 ล้านคน Silver Market เป็นเสื้อผ้าแฟชั่นอินเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในวัยสูงอายุ เช่นในยุโรป ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา โดยมองด้านการประหยัด แต่บุคคลเหล่านี้ก็ยังคงมีอำนาจในการใช้จ่าย
แขกช้อปแหลกในเทศกาลดิวาลีสุดยอด
แขกมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับเป็นคติที่คนอินเดียยึดถือเช่นคนไทย เช่นเดียวกับงานเฉลิมฉลองอื่นๆ ดิวาลีจะต้องมีของอร่อยๆไว้ทานกัน กับข้าวประเภทแกงแบบไทยเริ่มเป็นเครื่องเคียงสำหรับมื้อพิเศษของดิวาลีมากขึ้นเป็นลำดับ นอกจากนั้นอาหารที่ขาดไม่ได้คือขนมหวาน ขนมที่นิยมกันเป็นพิเศษได้แก่ laddus ( ขนมไข่หงส์ยักษ์ ) burfis , jalebis , jangris , pedas , แชมแชมส์ และ halwas ที่หวานสะใจมาก ถ้าจะให้ครบสูตรจะต้องกินพร้อมนมร้อนๆ ที่ปรุงด้วยกระวาน กานพลู หญ้าฝรั่น เหยาะด้วยเนยเหลวเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม มนุษย์เงินเดือนรุ่นใหม่ก็หันมาบริโภคขนมจากเมืองนอกกันมากขึ้นถึงจะอินเทร็นด์ ขนมหวานแปลกๆ ใหม่ๆ มีให้จับจ่ายและลิ้มลองมากมายทุกหนแห่งในอินเดีย ดังนั้น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ข้าวเกรียบ วุ้นกรอบ และผลไม้อบกรอบของไทยก็มีสิทธิเกิดในเทศกาลนี้เสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆ ของที่มากับกระเช้าของขวัญที่พบเห็นมากที่สุดเห็นจะเป็นผลไม้แห้งและสารพัดถั่ว อย่างเช่น ลูกเกด ลูกพลับ ถั่วลิสง มะม่วงหิมพาน อินทผาลัม เกาลัด ฯลฯ เห็นอย่างนี้แล้ว ผลไม้แปรรูป ผลไม้อบกรอบ ผลไม้ดีไฮเดรต โก๋แก่ สแนคไทยๆ และทองการ์เด็นบ้านเราคงเจาะตลาดได้ไม่ยากและสามารถเชิดหน้าชูตาในกระเช้าดิวาลีได้ไม่อายใคร บางเจ้าทำแพกเกจจิ้งเก๋ๆ โดนใจบริษัทใหญ่ๆ เขาเหมาหมดคอนเทนเนอร์ไว้แจกลูกค้าเลยทีเดียว บางครั้งก็เอาไว้เป็นอั่งเปาแจกพนักงานในบริษัทด้วย กล่องของขวัญสารพัดถั่วและผลไม้แห้งยังแสดงอิทธิฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศข้ามเมืองข้ามประเทศไปทั่วโลก เพราะแขกเขานิยมส่งไปรษณีย์ไปให้เพื่อนๆ ต่างเมืองและต่างประเทศ ดังนั้นไม่ควรมองข้ามตลาดกระเช้าของขวัญแขกทีเดียวขอบอก คนอินเดียในภาคเหนือจะพิถีพิถันกับการจัดกระเช้ามากเป็นพิเศษ แต่สำหรับภาคใต้กระเช้าจะไม่ค่อยหรูหราเท่าไร ดังนั้นจึงต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในจุดนี้ด้วย สำหรับอาหารที่ใช้รับรองแขกก็เป็นอาหารรสเลิศเท่าที่เจ้าภาพจะหาได้ แต่ในบางครั้งเจ้าภาพอาจชวนแขกไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารไทยกัน ร้านอาหารไทยถือเป็นแหล่งสำหรับเฉลิมฉลองเทศกาลดิวาลียอดนิยมเช่นกัน ที่ร้านเบญจรงค์ บ้านไทย เอเชียนา และเรือนไทยในเมืองเจนไน ร้านตำหนักไทยในเมืองมุมไบ และร้านอิษฎา ในเมืองไฮเดอราบัดจะมีลูกค้าอุดหนุนกันมากเป็นพิเศษในเทศกาลนี้ เทียนดิวาลี เทศกาลแห่งแสงสว่างจะมีการประดับประดาเทียนหอมกันทั่วบ้านไม่ว่าจะเป็นระเบียง บันได ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ห้องน้ำ สินค้าไทยประเภท เทียนหอม กำยาน และตะเกียงน้ำหอมมีโอกาสมากในการเจาะตลาดอินเดียในช่วงเทศกาลนี้ ในยามค่ำคืนจะมีการประชันกันจุดพลุกันสนั่นหวั่นไหวทั่วบ้านทั่วเมืองราวกับวันแดงเดือดที่มุมไบ บั้งไฟพญานาคของไทยก็มีสิทธิเกิดหากเสนอจุดขายเพื่อการขอพรทวยเทพแทนการขอฝน ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ กล่าวโดยสรุปสินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิดเช่น เสื้อผ้าแฟชั่นของไทยมีโอกาสสูงในตลาดอินเดียด้วยจุดแข็งการเป็นครัวโลกของไทย ผู้สนใจตลาดอินเดียควรวางแผนเนิ่นๆ ในการเจาะตลาดเทศกาลดิวาลีเพราะพ่อค้าเขาจะตุนสินค้า 2-3 เดือนก่อนถึงเดือนดิวาลี
แขกช้อปแหลกในเทศกาลดิวาลี(ต่อๆ)
ร้านค้าที่จำหน่ายเพชรจำหน่ายทอง ขายดีมากในเทศกาลดิวาลีนี้ เนื่องจากค่านิยมของคนอินเดียมักจะให้ของขวัญกันเป็นทองรูปพรรณสำหรับคนพิเศษเสมอไม่เว้นแม้แต่เทศกาลนี้ (ทองรูปพรรณเป็นสินค้าที่ได้รับการลดหย่อนภาษีภายใต้ FTA อาเซียน-อินเดีย)โดยเฉพาะแม่บ้านจะตั้งตาคอยสร้อยทองคำเส้นใหม่จากพ่อบ้านทุกปี (ไม่มีละก็น่าดู) ทั้งนี้ปีใหม่จะต้องมีกำไลชุดใหญ่ใหม่ๆ เสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆสวมให้เต็มจากข้อมือถึงต้นแขนอวดเพื่อนบ้าน แพรนดาจิวเวอรีของไทยที่ไปทำตลาดเครื่องประดับทองอยู่ในอินเดียก็ทำยอดขายได้สูงเป็นพิเศษในช่วงนี้ เมื่อมีแขกมาเยือนถึงบ้านช่วงดิวาลี คงไม่ดีแน่ถ้าให้แขกเห็นของใช้และเฟอร์นิเจอร์เก่า ดังนั้นคนอินเดียจึงนิยมซื้อของใช้ภายในบ้านใหม่กันในช่วงนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าฉันรวยกว่าปีก่อนนะ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์สำหรับครัวเรือนรวมทั้งเฟอร์นิเจอร์และเครื่องประดับจะขายดีเป็นเทน้ำในช่วงดิวาลี บลูเบอรี ไอพอต มือถือสองซิม หรือเครื่องซักผ้าก็ทำยอดพุ่งพรวดกันในช่วงนี้ สำหรับเฟอร์นิเจอร์ไทยๆ จะเป็นที่นิยมเป็นพิเศษเพราะดีไซนด์หรูเลิศแถมไม่แพง ยี่ห้อไทยที่ติดตลาด ได้แก่ Rockworth และ พีเอสพี Furniture กำลังมาแรงในเจนไนและไฮเดอราบัด อยากกระซิบว่าสินค้าในกลุ่มดังกล่าวนี้เป็นสินค้าที่ได้รับการลดหย่อนภาษีภายใต้ FTA อาเซียน-อินเดียด้วย นอกจากนั้น เทศกาลนี้ยังเป็นช่วงโละสินค้าเก่าสำหรับห้างต่างๆ เพราะคนนิยมนำกระเช้าของขวัญไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่และคนที่นับถือ ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็เลยจัดชุดกระเช้าไว้บริการลูกค้ากันถ้วนหน้า ของในกระเช้าส่วนใหญ่ก็เป็นของกิน ซึ่งครัวโลกอย่างประเทศไทยคงเข้าไปแจมด้วยได้ไม่ยาก แถมเทศกาลนี้ยังมีเฮเพราะทุกบริษัทจะแจกโบนัสประจำปีกันถ้วนหน้า ทำให้เศรษฐีข้ามคืนใช้เงินกันอย่างมันมือไปกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และสินค้าคงทนเพื่อเปลี่ยนฮวงจุ้ยใหม่ให้กับบ้านและทำให้ทุกคนในบ้านแฮปปี้อารมณ์ดีโดยเฉพาะคุณแม่บ้าน เท่านั้นยังไม่พอ เสื้อผ้าแฟชั่นเทศกาลดิวาลียังเป็นเทศกาลลด แลก แจกแถม หั่นราคากันดุเดือด สำหรับห้างร้านต่างๆ เพื่อรอรับบรรดาเศรษฐีข้ามคืนทั้งหลาย ดังนั้น เราจะเห็นป้าย “ลดแหลก” “ลดครึ่งราคา” “ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง” กันดาษดื่น เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าไม่ว่าร้านเล็กๆ หรือห้างใหญ่ๆ ก็ล้วนมีลูกค้าเข้าไปอัดกันแน่นกันถ้วนหน้าเหมือนกับว่ากำลังแจกของฟรี ดังนั้นอย่างได้ตกใจหากคุณจะถูกดันให้กระเด็นกระดอนไปมาตามกระแสคลื่นมหาประชาแขกหากคุณบังเอิญหลงเข้าไปในย่านค้าขายอย่าง Chandni Chowk ของกรุงนิวเดลี ทีนากาNagar ของเจนไน Dadar ของมุมไบ และ Brigade Road ของบังกะลอร์ (ชื่อใหม่คือ เบงกะลูรู –ไม่รู้จะเปลี่ยนชื่อทำไม)ในช่วงดิวาลี
แขกช้อปแหลกในเทศกาลดิวาลี
วันปีใหม่แขกเวียนมาถึงอีกแล้ว ปีนี้ (2553) ตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน แขกจะเรียกว่า เทศกาลดิวาลี เทศกาลปีใหม่ของอินเดีย คนอินเดียจะฉลองยาวตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงพฤศจิกายน ซึ่งคนอินเดียมักจะให้ของขวัญกัน แถมด้วยการแจกอั่งเปากันแบบไม่หวงความเค็ม ใจกว้างยิ่งกว่ามหาสมุทร สุดห้ามใจสำหรับผู้ส่งออกไทยที่จะเข้าไปขายของยั่วกิเลสแขก ดิวาลี (Diwali) (ทางภาคใต้เขาเรียกว่า ดีปาวาลี-Deepavali) หมายถึงเทศกาลแห่งแสงสว่าง ตามตำนานนาร๋ายนารายณ์เล่าว่าเป็นการเฉลิมฉลองวันที่ศรีรามเสด็จนิวัติกรุงอโยธยาเพื่อขึ้นครองศิริราชสมบัติ หลังจากที่ไปผจญภัยไล่ล่าทศกัณฐ์หน้าเหลี่ยมเสียหลายเพลา บางตำนานก็เล่าว่าเป็นการเฉลิมฉลองการมีชัยชโยตีของพระกฤษณะต่อยักษ์นรักขสุราขึ้นอยู่กับว่าท้องที่ใดจะเชื่อกันแบบไหน แต่จะอย่างไรก็ช่างเถิด คนอินเดียก็ฉลองกันอุตลุตอยู่ดีด้วยการช้อปสนั่น แจกสะบั้น เลี้ยงฉลองกันไม่เลิกลา แถมด้วยการจุดพลุสนั่นหวั่นไหวเจ็ดวันเจ็ดคืน ในภาคเหนือแม่บ้านจะลุกขึ้นมาสวดมนต์แต่เช้าเพื่อขอให้ทวยเทพประทานพรให้กับพ่อบ้านให้อายุมั่นขวัญยืนเป็นร่มโพธิร่มไทรกับครอบครัวไปตราบนานเท่านาน ส่วนในภาคใต้ซึ่งคนส่วนใหญ่ยังอยู่ในภาคเกษตรก็จะทำพิธีบายศรีให้กับโค-กระบือที่มีบุญคุณต่อเกษตรกร ....สาธุ ...สาธุ อันที่จริงปัจจุบันเทศกาลดิวาลีไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนามากเหมือนเมื่อก่อน แต่เป็นการเฉลิมฉลองชีวิตใหม่หรือการเริ่มต้นใหม่ๆ ในสิ่งดีๆ ลาทีสิ่งเก่า สวัสดีสิ่งใหม่ๆ เช่นเดียวกับปีใหม่บ้านเรา อีกทั้งเป็นช่วงเริ่มเข้าหน้าหนาว ทุกคนอารมณ์เบิกบานอยากฉลองกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอย่างไรก็ฉลองกันอยู่ดี ขายอะไรดีในเทศกาลดิวาลี เทศกาลนี้จะเป็นเทศกาลเยี่ยมญาติ (แต่ไม่มีโอเลี้ยง) ผู้ใหญ่และเพื่อสนิท และเพื่อให้เป็นศิริมงคลกับชีวิตทุกคนจะสวมเสื้อผ้าใหม่และเมื่อเจอกันก็จะแลกเปลี่ยนของขวัญกัน ดังนั้นเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆจึงเป็นสิ่งแรกๆ ในบัญชีหางว่าวสำหรับนักช้อปชาวโรตีในช่วงเทศกาลนี้ เพราะซานตาครอส (พ่อบ้าน) จะต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้สมาชิกในครอบครัวคนละ 1 ชุดเป็นอย่างน้อย ดังนั้นช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้าเทศกาลดิวาลีบรรดาโรงงานเสื้อผ้าสำเร็จรูปต่างเร่งรีบทำงานจนกลายสภาพเป็นโรงงานนรกไปทันที สำหรับห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็ผลักดันแฟชั่นใหม่ล่าสุดเข้าห้างและตู้โชว์กันอย่างเมามันเพื่อล่อตาล่อใจนักช้อปทั้งหลาย ทั้งนี้สีสันจะต้องฉูดฉาดบาดตาแถมมีเลื่อมระยิบระยับเป็นพิเศษเพื่อเอาใจลูกค้า ข้อควรระวังก็คือสีอัปมงคล ไม่ว่าจะเป็นดำ น้ำตาล หรือเทาห้ามเอามาขายอย่างเด็ดขาดในช่วงนี้ ดีไซนด์เนอร์เสื้อผ้าแฟชั่นบ้านเราลองไปสำรวจตลาดก็ไม่เลว รับรองไม่ผิดหวัง
เสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆนั้นเป็นเหมือนเครื่องบอกฐานะตอนจบ
เสื้อผ้าแฟชั่นเสื้อกล้ามเป็นสิ่งแรกที่ผู้ชายคิดถึงเวลาหน้าร้อนย่างกรายเข้ามา ด้วยลักษณะที่เปิดไหล่ไม่มีแขนเสื้อแล้วด้วยเนื้อผ้าที่บางใส่สบายทำให้ระบายความร้อนได้ดีมาก แต่จะให้ใส่ออกไปเดินในที่สาธารณะด้วยเสื้อกล้ามก็จะไม่ถูกกาลเทศะเกินไปเราก็มีเสื้อยืดแขนสั้นที่ดูแล้วเรียบร้อยสามารถใส่ไปได้โดยที่จะไม่ทำให้เราร้อนจนเกินไป จะใส่ไปห้างสรรพสินค้าหรือสวนสาธารณะก็เหมะสมทั้งนั้น แต่ถ้าบังเอิญฝนตกลงมาแล้วคุณจะเลือกใส่เสื้อผ้าแบบไหนดีที่เหมาะกับเวลาที่ฝนตก เสื้อกันฝนเป็นสิ่งแรกที่ผมจะหยิบก่อนออกจากบ้านเมื่อทราบว่าฝนจะตก เสื้อกันฝนนั้นถ้าเราใส่ดีๆให้ปกคลุมมิดชิดจะสามารถกันลมกันฝนได้ดีกว่าร่มหลายเท่า ด้วยเนื้อผ้าที่ทำจากพลาสติกอ่อนทำให้น้ำไม่สามารถไหลซึมเข้าไปได้ ทำห้าเราไม่เปียกฝนและไม่เป็นหวัดหรือเป็นไข้ตามมา แต่เวลาเราถอดก็ต้องระวังหน่อย ข้างในอาจจะไม่เปียกแต่ข้างนอกนั้นจะเปียกมากทำให้ตอนถอดลำบากสักหน่อย เมื่อทุกคนไปทำงานก็ต้องมีชุดในเครื่องแบบต่างๆตามอาชีพของแต่ละบุคคล ถ้าเป็นตำรวจก็จะเป็นชุดสีน้ำตาลเข้มรัดรูป มีหมวก เข็มขัดและตราสัญลักษณ์ต่างๆ ถ้าเป็นครูก็จะมีชุดสีกากี เป็นข้าราชการทั่วไปก็จะเป็นชุดสีขาวล้วนเรียกว่าชุดปกติขาว ที่กล่ามานี้เป็นชุดสำหรับแต่ละอาชีพ ถ้าเป็นชุดใส่ออกงาน ผู้ชายก็จะมีชุดสูท ทักสิโด ผู้หญิงจะใส่ชุดราตรีกระโปงยาวคลุมหัวเข่า เสน่ห์ของเสื้อผ้าแฟชั่นใหม่ๆที่เราเห็นชัดๆเละก็คือลายและสีสันของมัน ซึ่งวัยแต่ละวัยก็จะชอบไม่เหมือนกัน วัยเด็กก็จะชอบลายการ์ตูนต่างๆที่เล่นในโทรทัศน์ วัยรุ่นก็จะชอบสีฉูดฉาด วัยองก็จะชอบแบบเรียบๆ มีสีเดียว ไม่ค่อยมีลายมากนัก คนทุกคนต้องใส่เสื้อผ้า ถ้าไม่ใส่ก็จะ.....มากๆ ฉะนั้นเราควรเลือกใส่เสื้อผ้าให้ เหมะสมกับกาลเทศะ เมื่อใส่แล้วเราก็ควรที่จะดูแลรักษาเสื้อผ้าของเราให้ดี หมั่นซักหมั่นรีด เสื้อผ้าก็จะอยู่คู่กับเราไปได้อีกนาน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)