โลกแห่งการค้นหา..เพื่อชีวิต
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บุคคล แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บุคคล แสดงบทความทั้งหมด

ผู้ชายที่กลายเป็นหญิง เจินเจินตอนต่อ

จากเพลงนี้ก็สะท้อนให้เห็นความจริงและความเป็นไปไม่ได้ของสาวประเภทสอง ที่ว่า อย่างไรก็ตามชาตินี้ ชีวิตนี้ ไม่ว่าอะไรก็ตามถ้าหากเธอและคนรักของเธอต้องการ เธอสามารถหามาให้ได้ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่หามาให้ไม่ได้นั่นก็คือ ลูก ซึ่งตรงนี้ก็เป็นความรันทดอดสูของสาวประเภทสองทุกๆ คนที่ต้องประสบ จากตรงนี้ทำให้มีผลสืบเนื่องต่อไปอีกคือ ทำให้ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะมีความรักที่จริงใจให้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นความสะเทือนใจที่น่าเห็นใจอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีเพลงที่มีเนื้อหาในแนวนี้ปรากฏในเพลงอื่นๆอีกเช่น เพลงต่อไปนี้ “แฟนเดี้ยนหนีไปไส วุ้นในจิตมีไผ่ฮู้ จอกนี้เพื่อเจ้า, ไม่อยากคึด, เพลงรถไฟ, จริงแม่นบ่, เพลงสุดท้าย, ครั้งหนึ่งของฉัน, มีเธอมีฉัน…มี” บทเพลงเล่าเรื่อง เนื้อหาเพลงส่วนใหญ่เกือบทุก ๆ เพลง ถ้านำเอาเนื้อหามารวม ๆ กันแล้ว ก็จะเป็นการเล่าเรื่องราวชีวิตของ เจิน เจิน บุญสูงเนินทั้งหมด สะท้อนความจริงของชีวิต เจิน เจิน และสาวประเภทสองโดยปรากฏในหลาย ๆ เพลง เช่น เพลง “ฉันให้เธอไม่ได้” ที่ว่า “…สายเลือดของเรา ลูกที่เธอต้องการ ไม่มีวันที่เป็นไปได้ …”กล่าวคือถึงแม้เธอจะมีคนรัก มีรักที่สมบูรณ์แบบ อย่างชายหญิงทั่วไป และถึงแม้คู่รักของเธอจะต้องการสิ่งใด เธอก็สามารถหามาให้ได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ยกเว้นอยู่สิ่งเดียวนั้นคือ “การมีลูก”และนี่ก็เป็นความจริงของสาวประเภทสองทุๆคนที่มิอาจปฏิเสธได้ เพลง “ แฟนฉันหนีไป” เพลงนี้ก็สะท้อนชีวิตจริง เจิน เจิน ที่ว่าในอดีต เจิน เจิน เคยมีคนรักด้วยกันทั้งหมด ๔ คน แต่ในที่สุด คนรักก็จากไป ไม่มีใครจริงใจต่อเธอสักคน และเพลง ๆ นี้ก็สะท้อนความจริงของเธอได้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีบทเพลงที่สะท้อนความจริงของตัวเธออีก เช่น ในเพลง พระจันทร์เสี้ยว, ดาวตลกในโลกกลมๆ, นางฟ้าจำแลง เป็นต้น สะท้อนการประกอบอาชีพ ดังที่ปรากฏในเพลง “ผีเสื้อราตรี” ที่ว่า “ในมุมๆ หนึ่ง ยามราตรี ผีเสื้อปีกสวยโบยบินเป็นหมู่ แพรวพราวสีสันของอาภรณ์ล้อแสงไฟส่อง สร้างความเรืองรองให้กับคืนนี้ เก็บกดอารมณ์ ลงไปในความมืดดำ น้ำตาเจ้ากรรมไหลปรี่ มีใครเข้าใจไหม ฉันต้องแกล้งทำเป็นยั่วยวน ยั่วยวน….(ยั่วยวน) เหวี่ยง เหวี่ยง เหวี่ยง ออกไปซะ เป็นอะไรก็ช่างมัน เป็นอีหยังก้อแล้วแต่ข้อยตั๊ว นี่คือ….อาชีพของฉัน…” จากบทเพลงเป็นการกล่าวถึง อาชีพที่เธอประกอบอยู่ เช่น การแสดงคาบาเร่ การร้องเพลงตามแหล่งบันเทิงต่าง ๆ ล้วนเป็นอาชีพที่ต้องทำในยามราตรี ทั้งสิ้น อาชีพที่ทำนี้บางครั้งอาจทำด้วยความจำยอมเพราะนั่นเป็นเหมือนกับการแสดงละครฉากหนึ่งที่จะต้องเสแสร้งแกล้งทำ และจะต้องทน เพราะอย่างไรก็ตามนั่นมันก็คืออาชีพ อาชีพที่จะทำให้มีชีวิตดำรงอยู่ในสังคมต่อไปได้

ผู้ชายที่กลายเป็นหญิง เจินเจิน...ข้าคือคนไทย

อารมณ์รักแบบคนที่มีความรัก จะพบในเพลง “ สัญญา…สาบาน” ที่ว่า “…สัญญา สาบาน ให้ตะวันท่านเป็นพยานรักเรา มอบชีวิตให้เธอดูแล รักแท้ไปจนวันสิ้นใจ…” เป็นเพลงที่กล่าวถึงการเกี้ยวพาราสีระหว่างชายหญิง ว่าจะรักกันตลอดไป โดยให้พระอาทิตย์เป็นพยานแห่งความรัก และจะไม่ให้ประวัติศาสตร์ของความรักที่ผิดหวังซ้ำรอยอีก จะเห็นได้ว่าถึงแม้เธอจะเกิดมาเป็นสาวประเภทสอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเธอก็ต้องการความรักของเธอให้เป็นเหมือนกับความรักชาย-หญิงปกติทั่วไป นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาเพลงแบบนี้ปรากฏในเพลงอื่น ๆ อีกเช่น ในเพลง “ความรัก…ชะช่า อารมณ์รักที่มีต่อสถาบันสูงสุด ปรากฏอยู่หนึ่งเพลง คือ “ข้าคือคนไทย” ที่ว่า “ข้าคือคนไทย ไม่เคยลืมชาติพันธุ์ จะอยู่ที่ใด จะตายที่ใด วิญญาณ ก็เป็นคนไทย จะอยู่ที่ใด จะตายที่ใด วิญญาณฉันก็เป็นคนไทย”โดยเนื้อเพลงกล่าวว่าจะไม่ลืมชาติพันธุ์ของตัวเองไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จะตายที่ใดก็ตาม ทั้งชีวิต และ วิญญาณก็ยังคือคนไทยเหมือนเดิม เพราะว่าผืนแผ่นดินไทยมีคุณต่อเรามาก อีกทั้งยังมีคำสอนในพระพุทธศาสนาช่วยอบรมสั่งสอนซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนได้รับสืบทอดมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษแล้ว เพลง “ข้าคือคนไทย” เป็นเพลงปลุกใจให้รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือเป็นสถาบันสูงสุดที่คนไทยควรให้ความเคารพ และทางช่อง9 อ.ส.ม.ท.ก็ได้นำบทเพลงนี้ เปิดตอนที่จะปิดสถานีทุกๆวัน ถือได้ว่าเพลงนี้ได้ทำหน้าที่ของเพลงในข้อหนึ่งที่ว่า “รักษาสถาบันที่สำคัญทางสังคม” จากเพลงนี้ก็ได้สะท้อนความเป็นตัวของผู้ขับร้องได้เช่นกัน กล่าวคือ ถึงแม้เธอจะเกิดมาเป็นสาวประเภทสอง สังคมไม่ค่อยจะให้การยอบรับก็ตาม แต่ถึงอย่างไรเธอก็เป็นคนไทยคนหนึ่งที่พร้อมจะสู้ทนอยู่ในสังคมได้เหมือนกับคนอื่นๆ เป็นการเรียกร้อง วิงวอนผ่านบทเพลง ให้สังคมเห็นอกเห็นใจเพศที่สามเพิ่มมากขึ้น มิใช่เรียกร้องเพียงเพื่อตัวเธอเองเท่านั้น แต่นั่นเป็นการเรียกร้องแทนเพศที่สามทุกๆ คน อารมณ์ที่สะเทือนใจ โดยส่วนใหญ่แล้วบทเพลงก็จะกล่าวถึงอารมณ์สะเทือนใจเมื่อผิดหวังจากความรัก, อารมณ์สะเทือนใจที่เกิดมาเป็นเพศที่สาม เพราะเป็นชีวิตที่ลำบาก เต็มไปด้วยการต่อสู้ ดังนั้นเลยวิงวอนให้สังคมเห็นใจ อีกทั้งแนวเพลงก็จะกล่าวเป็นแนวปลุกใจ ให้ต่อสู้ไป ไม่ให้ยอมแพ้ต่อชีวิต เพื่อที่จะได้มีชีวิตในวันต่อไปที่สดใสและดีกว่า เช่น ในเพลง “ฉันให้เธอไม่ได้” ที่ว่า “ให้เธอไม่ได้ ให้เธอไม่ได้ ชาตินี้ฉันก็คงให้เธอไม่ได้ แล้วน้ำตา ฉันก็ต้องเช็ดหัวเข่า เมื่อถูกเขาทอดทิ้ง ช้ำใจยิ่งนัก ยอมทุ่มเททุกสิ่งที่เธอเอ่ยปาก ควักหัวใจให้เธอก็ยอม ให้ได้ฉันจะให้ ซื้อได้ฉันจะซื้อ ซื้อหัวใจให้เธอ….คืน ขอสิ่งอื่นทดแทนได้มัย สายเลือดเรา ลูกที่เธอต้องการ ไม่มีวัน (ไม่มีวัน) ที่เป็นไปได้ (ที่เป็นไปได้) ไม่มีวัน ชาตินี้ฉันคงให้เธอไม่ได้ ชาตินี้คง ให้เธอไม่ได้ ชาตินี้ฉันก็คงให้เธอไม่ได้”

สะท้อนชีวิตสังคมของผู้ชายที่กลายเป็นหญิง เจิน เิจิน ตอน2

การค้นคว้าครั้งนี้มุ่งศึกษาเนื้อหาของเพลงแบบองค์รวม เพื่อที่จะนำมาจัดประเภทของเนื้อเพลงตามประเด็นของเนื้อหา และมุ่งศึกษาการสะท้อนสภาพสังคมและชีวิตของผู้ขับร้อง ตลอดจนกลวิธีการใช้ภาษาสัญลักษณ์ที่ปรากฏ อีกทั้งจะต้องนำเอาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องเช่นแนวคิดเรื่องศิลปินเพลงและบทเพลง ทฤษฎีจิตวิทยา และแนวคิดกลวิธีการใช้ภาษาสัญลักษณ์มาอธิบายร่วมกับความคิดของผู้วิจัยด้วย ประวัติศิลปินเพลงโดยสังเขป ถ้ากล่าวถึงราชินีนักร้องสาวประเภทสองที่มีบทเพลงออกสู่สังคมและโด่งดังที่สุดในประเทศไทย เกือบทุกคนต้องนึกถึง เจิน เจิน บุญสูงเนิน เพราะเธอได้ฝากเสียงเพลงและสร้างสีสันให้กับสังคมมากพอสมควร ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ต่างก็ให้การยอมรับในความสามารถของเธอ เพราะเธอได้ไปแสดงผลงานเพลงที่ต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง เจิน เจิน มี ชื่อจริง ว่า นายประเชิญ บุญสูงเนิน ชื่อเล่น เจิ๋น เจิ๋น แต่ที่เป็น เจิน เจินเพราะแขกชาวต่างชาติตั้งให้เมื่อครั้งที่ไปร้องเพลงในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชีวิตของเธอเริ่มต้นที่จังหวัดนครราชสีมา และกว่าที่เธอจะมาเป็นเจิน เจิน ได้ทุกวันนี้ชีวิตเธอต้องประสบปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย เพราะเธอกำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อก็เป็นอัมพาต มีแต่น้องสาว (นิตยา บุญสูงเนิน) และมีพี่ชายเป็นหัวหน้าครอบครัว ฐานะเศรษฐกิจของครอบครัวยากจน ถึงขั้นที่ว่า ครั้งหนึ่งเคยเก็บของกินในกองขยะ และเวลาไปโรงเรียนก็ไม่มีรองเท้าที่จะสวมใส่ เมื่อเธอจบชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยแล้ว ในที่สุดเธอก็เลือกศึกษาต่อที่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในขณะที่ศึกษาอยู่เธอก็ทำงานไปด้วย คือ ร้องเพลงตามร้านอาหารหลาย ๆ แห่งในยามราตรี เพื่อเป็นทุนในการส่งเสียตัวเอง เจินเจินเป็นบุคคลหนึ่งที่รู้ตัวมาตั้งแต่จำความได้แล้วว่าเธอไม่อยากเป็นผู้ชาย ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ และเลือกเดินทางชีวิตด้วยตัวของเธอเอง และเดินไปได้ไกลจนสุดทางนั้นนับเป็นความสุขใจส่วนตัวที่หลายคนมิอาจเข้าใจได้ว่าทำไม เธอตระเวนไปร้องเพลงตามสถานบันเทิงต่าง ๆ มา ๑๐ กว่าปีแล้วและเมื่อเธอไปประกวดร้องเพลง เธอก็ได้รับตำแหน่งนักร้องดีเด่นของสยามกลการปี ๒๕๒๗ ปีเดียวกับ ธงไชย แมคอินไตย์ และความฝันอันสูงสุดที่อยากจะออกเทป ก็เริ่มสว่างไสวขึ้น ในที่สุดเธอก็ได้เป็นศิลปินของบริษัทเลปโส้ โดยเกิดจากความคิดของคุณวิศาล เลาแก้วหนู ที่ต้องการนำเสนอ แนวเพลงชีวิต ที่พูดถึงความจริงในสังคมที่ทุกคนมิอาจปฏิเสธ มีศิลปินลักษณะพิเศษ โดยที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ออกอัลบั้มชุดแรกคือ “ฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง” ชุดที่สอง “ผีเสื้อราตรี” และชุดที่สาม “ข้าคือคนไทย” เมื่อล่าสุดนี้ (ธันวาคม ๒๕๔๓) เธอมีอัลบั้มพิเศษออกร่วมกับศิลปินท่านอื่น ๆ เป็นเพลงประกอบละคร “ที่ปลายฝันนั้นเพื่อเธอ” ซึ่งเนื้อหาของเพลงบางส่วนก็สะท้อน ภาพชีวิตและสังคมของเธอได้เหมือนกัน