โลกแห่งการค้นหา..เพื่อชีวิต

เรื่องรักฉบับหวานขมบทที่ 10-6

   ท่านพยักหน้ารับรู้ก่อนถามขึ้น “แล้วธีกินข้าวมาหรือยัง” “วันนี้ผมแวะไปกินที่บ้านมาแล้วครับ”  “อือ…” ท่านตอบรับสั้นๆ และค่อยๆ ลุกขึ้น “งั้นลุงไปอาบน้ำก่อนนะ วันนี้เหนียวตัวเหลือเกิน อากาศมันร้อนอบอ้าว” บอกเสร็จก็เดินผละจากไป หลังจากนั้นธีธัชก็เดินมานั่งหน้าโทรทัศน์แก้เซ็ง เห็นสองหนุ่มสาวไม่เต็มบาทนั่งคุยกันกะหนุงกะหนิง วันนี้เขาเกิดเบื่อขึ้นมาตงิดๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทั้งยังชำเลืองมองนาฬิกาบนฝาผนังเป็นร้อยรอบจนตาเกือบเหล่ คอแทบเคล็ด “นี่ตัวเอง เค้าจะได้เป็นยามแล้วนะ วันนี้แม่บอกว่าถ้าเค้าขยันฝึกพูดให้ชัดกว่านี้ ตั้งใจฝึกเวลาไปศูนย์ฯ อีกหน่อยก็ไปสมัครเป็นยามได้” อเนกชวนแฟนสาวคุย “จริงเหรอ” น้ำเสียงของสุดาบอกความดีใจสุดขีดสติ๊กเกอร์แต่งรถ honda city แต่ครู่เดียวก็ถามกลับอย่างสงสัย “แต่ไหนตัวเองบอกว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ต้องจบ ปอ.6 ไง แล้วตัวเองไม่ได้จบ ป.6 แล้วจะสมัครได้เหรอ”  “ก็แม่บอกว่าพอฝึกจนพูดชัดแล้วก็ไปเรียนต่อไง พอเรียนจบ ป. 6 ก็ไปสมัครเป็นยาม เห็นมั้ย ไม่เห็นจะยากเลย ตัวเองต้องรอเค้า อย่าไปคบกับคนอื่นนะ” น้ำเสียงในช่วงท้ายเจือความกังวล สุดาน้ำตาซึม ยกมือขึ้นซับน้ำตาราวกับนางเอกในละคร “ก็ต้องรอสิ เค้าจะไปคบกับคนอื่นได้ยังไง เค้าจะรอตัวเองตลอดไป” เสียงเครือเล็กน้อยขณะพูด “โดนัต” อเนกเรียนแฟนสาวด้วยความซาบซึ้งใจ “แอนดริว” อีกฝ่ายเรียกชื่อกลับด้วยอารมณ์ไม่ต่างกัน แล้วทั้งสองก็ยื่นมือมากุมกัน ทำท่าราวกับฉากจบในละครน้ำเน่า “โดนัต” “แอนดริว”  “ดังนรกชัง หรือสวรรค์แกล้ง แกล้งทรมาน ให้ฉันได้เจอ” ด้วยอารมณ์พาไป อเนกจึงร่ายเพลงรักด้วยแววตาหวานซึ้ง  “เกลียดชิงชัง สุดท้ายรักเธอ แต่พอเผลอ พรากเธอดับสูญ” สุดารับมุกเข้าขาด้วยการต่อเพลงในทันทีเช่นกัน ธีธัชกุมขมับอย่างละเหี่ยใจกับฉากรักหวานซึ้งตรงหน้า นึกถึงปลากัดที่จ้องตากันเมื่อไรเป็นได้เรื่อง  จู่ๆแบบลายข้างรถพร้อมใช้งาน เสียงสุนัขเห่ารัวก็ดังลั่นแทรกขึ้น สองหนุ่มสาวสะดุ้งโหยง หยุดร้องเพลงกะทันหัน หันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก หลุดจากห้วงอารมณ์รักในบัดดล “ตัวเอง เค้าว่าต้องเป็นไอ้หมานิสัยไม่ดีสองตัวนั้นแน่เลย” สุดากระซิบเบาๆ กับแฟนหนุ่มที่พยักหน้าเออออคล้อยตาม พลางชะเง้อมองออกนอกหน้าต่างอย่างหวาดเสียว จากนั้นทั้งคู่ก็ลดเสียงคุยจู๋จี๋ลง ราวกับรู้ตัวว่าหวานเกินพิกัดจนสุนัขยังหมั่นไส้ ธีธัชจำต้องทนดูฉากรักหวานจ๋อยเย็นเจี๊ยบและบาดใจตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่สุนัขสองตัวนั้นยังทนไม่ไหว ต้องเห่าประท้วง ก็ใช่น่ะสิ ขนาดตัวเขาเองยังเลี่ยนแทบแย่ นี่ถ้าเป็นคนสมองปกติมาทำแบบนี้ต่อหน้า เขาคงได้โก่งคออาเจียนสักสิบรอบไปแล้ว เฮ้อ! สติ๊กเกอร์แต่งรถแต่เพราะรู้ว่าสองคนนี้ไม่ใช่คนปกติทั่วไป จึงพอรับไหว